4 คำถาม เรื่องอาสาตำรวจจีน ‘ทนายแจม’ เผยพิรุธในคำชี้แจงของตำรวจ และ ม. สยาม เชื่อต้องมีสักฝ่ายที่โกหก แนะตรวจสอบเส้นทางการเงิน

จากกรณีที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับ การอบรมอาสาตำรวจคนจีน โดยมีค่าอบรมคนละ 38,000 บาท ซึ่งในภายหลังทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ออกมาปฏิเสธว่าเป็นการจัดอบรมโดยมหาวิทยาลัยสยาม และเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นเพียงวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายไทยเท่านั้น และทางตำรวจไม่ทราบเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายหลักสูตร และไม่รู้เรื่องการแจกหมวก เสื้อกั๊กและบัตรแสดงตัวตำรวจอาสาแต่อย่างใด

ในขณะที่ทางมหาวิทยาลัย ปฏิเสธว่าไม่ได้มีการเก็บค่าใช้จ่าย และเป็นการฝึกอบรมเพื่อให้ล่ามเข้ามาช่วยแปลภาษาประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ง่ายขึ้น เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยนั้น มีนักศึกษาจีนเป็นจำนวนมาก และทางมหาวิทยาลัยเองไม่ได้มีการอนุญาตให้มีการออกบัตรหรือนำตราสัญลักษณ์ใดๆไปใช้เช่นเดียวกัน

ด้านทนายแจม – ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส. กรุงเทพ พรรคประชาชนได้ออกมาตั้งคำถามถึงกรณีนี้ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียโดยมีข้อความว่า

“เรื่องอบรมอาสาตำรวจคนจีน เริ่มมีเรื่องไม่ชอบมาพากลนะคะ ทางมหาวิทยาลัยก็ออกมาปฏิเสธเรื่องเก็บเงิน ทางตำรวจก็บอกไม่รู้เรื่องเก็บเงิน แสดงว่าไม่ใครก็ใครต้องโกหกแล้วค่ะ   เมื่อวานได้รับโทรศัพท์ทั้งวัน แต่มีสายสำคัญสายหนึ่ง ที่พอจะได้ข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับเรื่องนี้ กำลังรอหลักฐานเพิ่มค่ะ

ส่วนประเด็นเรื่อง เงิน 38,000 บาท หากมีการตรวจเส้นทางการเงิน ก็จะทราบได้ว่า การโอนเงินไปที่ไหน ใครโอนเงินให้ใคร แม้กระทั่งเรื่องหนังสือที่มหาวิทยาลัยส่งไปขอให้ตำรวจมาเป็นวิทยากร นั่นก็ดูไม่ปกติเช่นกัน แต่ทั้งตำรวจและอาจารย์ของมหาวิทยาลัย เป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงๆทั้งสองฝ่าย 

.

ตอนนี้จึงมีประเด็นสำคัญอยู่ 4ประเด็น

1. เงิน 38,000 บาท ใครจ่ายบ้าง และจ่ายให้ใคร? ตร.จะตรวจสอบเส้นเงินหรือไม่?
2. หนังสือที่อ้างว่าออกจากมหาวิทยาลัยสยาม ใครเป็นคนออกกันแน่?
3. การแอบอ้างทั้ง CIB ทั้ง DSI ตำรวจด้วยกันไม่มีการตรวจสอบก่อน? หลังจากนี้ทางตำรวจจะดำเนินการอย่างไร?

4.ผู้เข้าร่วมอบรมทั้ง 30 คน เป็นนักศึกษาทั้งหมดหรือไม่? หรือเป็นนศ.แค่บางส่วน แล้วมีบุคคลภายนอกมาร่วมด้วยหรือไม่?

ทางตำรวจแจ้งว่าอีก 2-3 วัน จะได้คำตอบ ดิฉันก็คาดหวังว่าจะได้คำตอบจากท่านค่ะ”

นอกจากนี้ ทนายแจมยังได้โพสต์คลิปประกอบ ซึ่งปรากฏภาพที่มีบุคคลที่อาจจะเป็นชาวจีน สวมเสื้อกั๊กตำรวจอาสา ถ่ายภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในระหว่างการฝึกอบรมด้วย