
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย,15 ก.ค. 66
15 ก.ค. 66 พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แถลงข่าวภายหลังการประชุมใหญ่สามัญของพรรค ที่โรงแรมริเวอร์ไซต์ บางพลัด และภายหลังการแถลงข่าว ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงถึงสถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งพล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ได้ตอบว่า 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลจะยังคงเดินหน้าประสานงานกับทั้ง ส.ว. และ ส.ว. เพื่อให้มีการสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ให้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี
“แต่ยังไงก็ตาม เมื่อถามมาก็จะพูดกันตรง ๆ ว่ามันก็ลำบากเหมือนกัน เพราะครั้งที่แล้ว ส.ว. มาลงคะแนนให้คุณพิธาเพียง 13 ท่านด้วยกัน เป็นกลาง 52 คน ส.ว. คนนึงที่รับปากกับผมว่าจะลงคะแนนให้ ท่านก็งดออกเสียงให้ คือสถานการณ์มันเปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลา แล้วแต่เขาจะตัดสินใจนะครับ” พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าว
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ได้กล่าวต่อไปว่า จะยังคงเดินหน้าในการสนับสนุนคุณพิธาในการโหวตนายกรัฐมนตรีรอบใหม่ในวันที่ 19 ก.ค. นี้ ซึ่งตนเองรู้สึกหนักใจแทน และถ้ายังไม่ผ่านอีก แล้วดูแล้วไม่มีโอกาสจริง ๆ ก็ต้องเป็นคิวพรรคเพื่อไทยที่จะขึ้นมาเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลก็จะยังคงอยู่ด้วยกัน
“แต่ถ้ายังมีการเกี่ยงกันว่ายังมีก้าวไกลร่วมอยู่ คงไม่เอาด้วย ก็คงไม่ผ่านเหมือนเดิม เมื่อไม่ผ่านก็เป็นเรื่องที่เพื่อไทย ก้าวไกลตกลงกันว่าจะเอาไง เรามีแต่ความคิดแต่เราไม่สามารถที่จะไปจัดการอะไรได้ 2 พรรคต้องไปตกลงกัน
ผมเชื่อว่าในที่สุด เพื่อให้มีนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ให้ได้ ก้าวไกลคงต้องเสียสละนะครับ เข้ามาเป็นฝ่ายค้าน เพื่อให้เพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลไปตามที่พี่น้องประชาชนต้องการ มีการจับขั้วของเพื่อไทยเพื่อให้ได้เสียงเพิ่มมากขึ้น อาจจะไปดึงพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคอื่น ๆ มาเพื่อสร้างโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อให้มีเสียงเกิน 316 เสียง มันก็เป็นไปได้” พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์
นอกจากนี้ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ยังได้กล่าวอีกว่า นอกจากพรรคก้าวไกลจะต้องเสียสละไปเป็นฝ่ายค้านแล้ว ยังจะต้องสนับสนุนพรรคเพื่อไทยในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย เพื่อให้เพื่อไทยสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้
สุดท้ายนี้ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวติดตลกว่า “ถ้าเลือกใครไม่ได้ก็เลือก เสรีพิศุทธ์” โดยอ้างอิงมาตรา 272 วรรค 2 ซึ่งเปิดโอกาสให้สามารถเลือกคนนอก คนที่ไม่อยู่ในบัญชีรายชื่อ ก่อนที่จะทิ้งทวนว่า “ผู้สื่อข่าวลองเสนอดู จะเป็นให้ดู”