เลือกปฏิกษัตริย์นิยม ดีกว่าเลือกไดโนเสาร์โกงกิน ‘ดร.เสรี’ ชี้ประชาชนเบื่อหน่ายกับนักการเมืองอนุรักษ์นิยม จึงไปเลือกคนรุ่นใหม่โดยไม่สนใจแนวคิดที่แฝงมา
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2567 วิจารณ์นักการเมืองกลุ่มอนุรักษ์นิยม ที่มีพฤติกรรมคอร์รัปชัน และใช้อำนาจโดยมิชอบ จนเป็นสาเหตุให้คนรุ่นใหม่หันไปเลือกพรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่ โดยไม่สนใจแนวคิดปฏิกษัตริย์นิยมที่ถูกแฝงมาด้วย โดยมีข้อความว่า
นักการเมืองไดโนเสาร์ที่เล่นการเมืองแบบน้ำเน่า โกงกิน คอรัปชั่นเชิงนโบาย มีผลประโยชน์ทับซ้อน.เล่นพรรคเล่นพวก สร้างโอกาสให้นักการเมืองรุ่นใหม่ แค่เขาอ้างว่าจะมาเปลี่ยนประเทศไทย จะมายุติการโกงกิน จะล้างบางนักการเมืองที่ใช้อำนาจโดยมิชอบ เขาก็โกยคะแนนได้แล้ว
ข้อความการหาเสียงสนับสนุนนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในช่วงการหาเสียงก่อนเลือกตั้งเท่านั้น แต่มีการรณรงค์อย่างมียุทธศาสตร์ต่อเนื่อง มีการจัดทำค่ายฝึกอบรม มีการบรรยายในสถานศึกษาหลายระดับ มีการแสดงปาฐกถา การปราศรัย การให้สัมภาษณ์ การโพสต์ใน social media
หัวข้อเรื่องปราบคอร์รัปชันบ้าง เปลี่ยนแปลงประเทศไทยบ้าง ประชาธิปไตยบ้าง การเมืองภาคประชาชนบ้าง หัวข้อเหล่านี้ ผู้บริหารสถานศึกษามีใครกล้าปฏิเสธ เพราะถ้าปฏิเสธ ก็จะโดนกล่าวหาว่าไม่เป็นประชาธิปไตย ล้าสมัย ไม่ขานรับความเจริญ
แต่เมื่อดูรายชื่อผู้บรรยาย ผู้นำการสัมมนา แล้วต้องตกใจ เพราะจุดยืนของพวกเขาคือล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ และเวลาพวกเขาบรรยาย ก็จะใส่ความคิดที่เป็นจุดยืนทางการเมืองที่สะท้อนแนวความคิดแบบปฏิกษัตริย์นิยมเข้าไปด้วย และพวกเขาก็ครอบงำความคิดของเยาวชน Gen Y และ Gen Z ที่ไม่ซาบซึ้งพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ได้สำเร็จ
เยาวชนจำนวนหนึ่งบ้าเสรีภาพอย่างไร้ขอบเขต เรียกหาความทัดเทียมที่ไม่มีอยู่จริง ชังชาติ ด้อยค่าประเทศ มีทัศนะแบบปฏิกษัตริย์นิยม
ถ้าหากนักการเมืองไดโนเสาร์ยังเล่นการเมืองน้ำเน่า โกงกินจนเป็นคดีความ เป็นข่าวอึกทึกแบบนี้ คนก็จะเลือกพรรคที่บอกว่าจะมาเปลี่ยนประเทศไทย
คนไทยจำนวนหนึ่งต้องการสนับสนุนนักการเมืองรุ่นใหม่ที่บอกว่าจะมาเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ไม่สนใจว่าพวกเขาต้องการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 เป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์
เมื่อฝ่ายหนึ่งตั้งใจทำสงครามข่าว แต่ฝ่ายอนุรักษ์ไม่คิดจะทำสงครามข่าว มันก็ต้องแพ้ในการปลูกฝังความคิดแน่ๆ ไม่รู้ว่าพวกเราจะช่วยกันดำรงความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ได้อีกนานแค่ไหน เยาวชนที่เป็นแนวร่วมของพวกปฏิกษัตริย์นิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อไหร่นักการเมืองชั่วจะมีสำนึก
เมื่อไหร่สื่อมวลชนจะเลิกเชียร์คนชั่ว
เมื่อไหร่นักวิชาการจะเลิกขายวิญญาณ
เมื่อไหร่นักการเมืองระดีบลิ่วล้อจะเลิกช่วยคนชั่ว
เมื่อไหร่ข้าราชการจะเลิกสนับสนุนนักการเมืองชั่ว
เมื่อไหร่ประชาชนจะเลิกเห็นแก่ได้ และหยุดเลือกนักการเมืองชั่วๆที่เอาโครงการประชานิยมมาหลอกเอาคะแนน
ถ้ายังเป็นกันแบบนี้ประเทศไทยคงเป็น failed state ที่จะมีต่างชาติมาเป็น deep state ครอบงำอธิปไตยของประเทศเรา ถึงวันนั้นเราต้องสูญเสียอะไรบ้าง คิดดูนะ
อย่าเฉยกันนักเลย อย่ามัวแต่คิดว่าประเทศไทยไม่ใช่ของเราคนเดียว เราไม่ทำอะไร ก็มีคนอื่นมาช่วยทำ แล้วเราจะรอด จะรอให้คนอื่นทำแทนเราเลยค่ะ ช่วยกันทำเถอะ