วิวาทะ รังสิมันต์ โรม ประธาน กมธ. ความมั่นคงฯ 4 ธ.ค. 2567 VS อนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. มหาดไทย 9 ธ.ค. 2567
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมา โดยระบุว่าตนเองจะตั้งกระทู้ถามนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. มหาดไทย ในการเปิดสมัยประชุมสภาในวันที่ 12 ธ.ค. นี้
เกี่ยวกับข้อสงสัยว่ากลุ่มว้าแดง ซึ่งมีปัญหาข้อพิพาทกับไทยเกี่ยวกับพื้นที่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน และมีความเกี่ยวข้องกับปัญหายาเสพติดในประเทศไทย โดยระบุว่ากลุ่มว้าแดงนั้น อาจจะใช้พลังงานไฟฟ้าจากไทยในการผลิตยาเสพติด
“วันนี้ยาเสพติดที่ผลิตขึ้นต้องใช้อะไรบ้าง เช่น สารตั้งต้น แต่ไม่พอ การผลิตยาเสพติดต้องใช้พลังงาน ต้องใช้ไฟฟ้า คำถามคือ ไฟฟ้ามาจากที่ไหน ข้อมูลที่ได้รับมา คือ ไฟฟ้าที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เราขายไฟไปยังท่าขี้เหล็ก ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของว้า
หลักฐานที่ชัดเจนอย่างหนึ่ง คือ การจ่ายค่าไฟฟ้าไปที่ท่าขี้เหล็ก 2 ปีกว่า เป็นการจ่ายโดยใช้บัญชีม้า และเส้นเงินก็เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และมีคลิปเสียงบริษัทที่อยู่เบื้องหลังของเรื่องไฟ ซึ่งผู้ที่อยู่เบื้องหลังคือว้า ว้าไม่ได้รุกล้ำแค่ชายแดน แต่ว้ามีอิทธิพลถึงขนาดเอาไฟฟ้าจากประเทศไทยไปใช้งานได้ด้วย คำถามคือ ไฟฟ้ามาจากไหน ถ้าไม่ใช่ประเทศไทย” นายรังสิมันต์กล่าว
วันนี้ นายอนุทินได้กล่าวเกี่ยวกับกรณีนี้ ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ว่าในวันนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จะชี้แจงในเบื้องต้น ซึ่งในข้อเท็จจริงนั้นไม่ได้เป็นไปตามที่นายรังสิมันต์กล่าวมา ทุกอย่างทำตามกฎหมาย ไม่มีการสนับสนุนหรือส่งเสริมใดๆ
อีกทั้งในอดีต เคยมีการฟ้องบริษัทที่ดำเนินการรับสัมปทานจากไทยไปว่าไปสนับสนุนการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งศาลอาญาชั้นต้นได้พิพากษามาแล้วว่าฟังไม่ขึ้น และขณะนี้คดีอยู่ในขั้นตอนการยื่นขออุทธรณ์ อย่างไรก็ดี การที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องแสดงว่ายังไม่มีการกระทำผิด ซึ่งในวันนี้ได้มีการเชิญผู้ว่าฯ กฟภ. มาชี้แจงในเรื่องนี้
ทั้งนี้ นายอนุทินยืนยันว่า หากนายรังสิมันต์ตั้งกระทู้ถามตนเองในสภาจริง ตนเองจะไปตอบกระทู้ด้วยตนเอง เพราะไม่มีอะไรที่ต้องปิดบัง หรือหลบหลีก
สำหรับในส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าว้าแดงมีอิทธิพลนั้น นายอนุทินกล่าวว่า เขามีอิทธิพลในประเทศของเขา ซึ่งเราทำอะไรเขาในส่วนนั้นไม่ได้ แต่เขาจะมากดดันในประเทศไทยไม่ได้ และยืนยันว่าทางการไทยไม่ได้ให้การสนับสนุนอย่างแน่นอน
การขายไฟฟ้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เป็นไปตามกฎหมายและหลักมนุษยธรรม อีกทั้งยังต้องผ่านการรับรองจากประเทศเพื่อนบ้าน สภาความมั่นคงแห่งชาติ และกระทรวงการต่างประเทศด้วย
“กฟภ.มีหน้าที่ขายไฟฟ้าตามความเห็นชอบของหน่วยงานด้านความมั่นคง หากมีปัญหาก็สามารถพิสูจน์ได้ โดยการประสานงานกับทางรัฐบาลเมียนมา ผ่านเอกอัครราชทูต
เคยมีกรณีที่ทางเมียนมาแจ้งให้ตัดไฟในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่พบว่ามีการทำผิดกฎหมาย เราก็ดำเนินการให้ตามร้องขอ จึงไม่มีอะไรให้ต้องกังวลใจ การที่นายรังสิมันต์ ไปได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวมา ก็เป็นเรื่องดีที่จะตั้งคำถาม ก็พร้อมตอบกระทู้” นายอนุทิน กล่าว