
วิวาทะ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม VS อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี แลt รมว. มหาดไทย 4 ก.พ. 2568
ภายหลังจากที่ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ออกคำสั่งให้ กฟภ. ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมาในทันที โดยระบุว่า การขายไฟฟ้าให้เมียนมาเกิดขึ้นตามมติ ครม. ในปี 2535 – 2537 2 ครั้ง โดยครั้งแรกคือให้ขายไฟให้เมียนมา และต่อมาคือให้ขายไฟตามแนวชายแดนได้โดยไม่ต้องเข้า ครม.
“ดังนั้น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มีอำนาจตามระเบียบของ กฟภ. โดยเฉพาะในข้อ 51.1 และ 51.2 กฟภ.งดจ่ายไฟฟ้าได้หากพิจารณาเห็นว่าการจ่ายไฟฟ้ากระทบความมั่นคงของชาติ”
อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. มหาดไทย กล่าวถึงกรณีนี้ว่า รอให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ชี้แจงจะดีที่สุด เพราะเมื่อวานมีการประชุมไปแล้ว และที่ประชุมเห็นตรงกันว่า ให้ สมช. รวบรวมข้อมูลทั้งหมดและนำเสนอ นายภูมิธรรม ในฐานะประธาน สมช.
“หากมีข้อสั่งการอย่างไรมาก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม แต่ไม่ใช่ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะไปหยุดจ่ายไฟเองได้ทันที ซึ่งไม่ใช่อย่างแน่นอน หากท่านภูมิธรรมเซ็นคำสั่ง เราก็พร้อมที่จะตัดไฟในทันที เพราะถือเป็นการสั่งการที่มีกฎหมายรองรับ” อนุทินกล่าว และกล่าวต่อว่า
แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีประเด็นว่าต้องมีหลักฐานก่อนตัดไฟ แต่ล่าสุด สมช. ได้เรียกประชุมและมีข้อสรุปออกมาแล้ว โดยมีการรายงานผลการประชุมให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และที่ประชุมมีผู้แทนจากหลายหน่วยงานเข้าร่วม รวมถึงรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งทุกฝ่ายก็ให้การยอมรับกับข้อสรุปดังกล่าว
ทั้งนี้ สมช. จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดและนำเสนอต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อสั่งการต่อไป ในขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันความพร้อมในการปฏิบัติตามคำสั่ง
และในอดีตเคยมีการตัดไฟฟ้าไปยังพื้นที่บางแห่งในเมียนมาแล้ว 3 แห่ง เนื่องจากมีหลักฐานชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมาย และหากจะมีการตัดไฟฟ้าเพิ่มเติม จะต้องมีการแจ้งข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจนเกี่ยวกับพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง