Newsหนี้สาธารณะจ่อทะลุ 13 ล้านล้าน ในปลายปี 2568 ‘วีระ’ ชี้หากรัฐบาลยังจัดทำงบประมาณขาดดุล และกู้เงินชดเชยต่อไปอีก เสี่ยงสร้างวิกฤติการเงินการคลังภาครัฐอย่างหนักหนาสาหัส

หนี้สาธารณะจ่อทะลุ 13 ล้านล้าน ในปลายปี 2568 ‘วีระ’ ชี้หากรัฐบาลยังจัดทำงบประมาณขาดดุล และกู้เงินชดเชยต่อไปอีก เสี่ยงสร้างวิกฤติการเงินการคลังภาครัฐอย่างหนักหนาสาหัส

นายวีระ ธีระภัทรานนท์ กมธ. วิสามัญพิจารณา พรบ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 กล่าวในการประชุมสภาผู้แทนฯเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2568 วาระที่ 2 ว่าการจัดงบประมาณแบบขาดดุล และกู้เงินชดเชยงบประมาณ ของทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 10ปี สร้างความวิตกกังวลให้กับฐานะการเงินการคลังประเทศในอนาคต

 

ณ เดือน มิ.ย. 2567 ไทยมีหนี้สาธารณะอยู่ที่ 11.54 ล้านล้านบาท คาดว่าภายในสิ้นปี 2568 จะทะลุไปถึง 12 13 ล้านล้านบาท และถ้าหากรัฐบาลยังคงจัดงบประมาณในลักษณะนี้อยู่ในอีก 3-5 ปีข้างหน้าจะก่อให้เกิดปัญหาด้านการเงินการคลังภาครัฐอย่างหนักหนาสาหัส

 

ในงบประมาณปี 2568 มีรายจ่ายประจำอยู่ที่ 2.7 ล้านล้านบาท รายจ่ายลงทุน 9 แสนล้านบาท และรายจ่ายชำระคืนเงินต้น ดอกเบี้ย 1.5 แสนล้านบาท โดยรายจ่ายประจำมีแต่เพิ่มขึ้นตลอด เงินทุกบาททุกสตางค์ล้วนเป็นเงินกู้ ที่ต้องหาเงินต้น ดอกเบี้ยมาใช้คืนในอนาคต 

 

ซึ่งถือเป็นสัญญาณอันตราย ที่ถึงแม้จะอ้างว่าอยู่ในกรอบวินัยทางการเงิน การคลัง ตามกฎหมาย แต่ก็ยังนำไปสู่หายนะได้ ถ้ากระทำอย่างไม่ระวังรอบคอบ

 

ณ วันที่ 30 ก.ย. 2566 รัฐบาลมียอดค้างชำระเงินต้น และดอกเบี้ย 1.04 ล้านล้านบาท แต่ปัจจุบันไม่รู้มีเท่าใด เพราะไม่มีการเปิดเผย และถือเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลาย สถานะการเงินของรัฐบาล ทั้งในปัจจุบันและอนาคต หากไม่ยับยั้งจะเกิดวิกฤติการคลัง

นายวีระ ยังได้เสนอแนวทางเอาไว้ดังนี้

1.การจัดทำงบรายจ่ายตั้งแต่ปี 2569 ต้องทำงบแบบไม่เพิ่มวงเงินรายจ่ายอีกอย่างน้อย 3ปี จนกว่าความเสี่ยงทางการคลังจะลดลง และเข้าสู่ภาวะการบริหารจัดการที่เหมาะสม

2. งบรายจ่ายปี 2569 ต้องหยุดสร้างภาระการคลังในอนาคต และเร่งชำระเงินต้น ดอกเบี้ยคงค้าง 1ล้านล้านบาท จนกว่าเงินต้นจะลดลง ซึ่งหากไม่ทำอาจก่อให้เกิดวิกฤติการคลังในอนาคตได้



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า