Newsต่างประเทศเปรียบเทียบนโยบาย ศึกชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024

เปรียบเทียบนโยบาย ศึกชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024

เปรียบเทียบนโยบายศึกชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024

วันนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งวันในหน้าประวัติศาสตร์ที่จะกำหนดทิศทางของชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ผ่านการเลือกตั้งประธานาธิบดี 2024 โดยมีผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ 2 ท่านได้แก่

1 กมลา แฮรีส รองประธานาธิบดีสหรัฐ จากพรรคเดโมแครต ซึ่งมีแนวอุดมการณ์แบบขวา-กลาง, เสรีนิยมหัวก้าวหน้า (Liberalism and Progressivism)

2 โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งมีอุดมการณ์แบบซ้าย-กลาง ค่อนไปทางซ้าย, อนุรักษนิยม (Conservativism) และมีความเสรีนิยมในแบบอเมริกัน (เสรีนิยมแบบรีพับลิกัน – Libertarian Republican)

ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้ท้าชิงตำแหน่งทั้ง 2 ท่าน ต่างก็แสดงวิสัยทัศน์ นำเสนอนโยบายที่แตกต่างกัน ซึ่ง The Structure นำมาเปรียบเทียบ 6 ด้าน ซึ่งส่งผลกระทบต่อโลกและประเทศไทยดังนี้

1 การค้าและภาษีนำเข้า

ทรัมป์: เสนอว่าควรที่จะปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ จากการเข้ามาของสินค้าจีน ด้วยการเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 60% และตั้งภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศอื่น ๆ 10 – 20% และเพื่อการปกป้องอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศจากยานยนต์ไฟฟ้า (EV) จากจีน ทรัมป์เสนอให้ขึ้นภาษีนำยานยนต์ที่ผลิตนอกสหรัฐ 100%

แฮรีส: เองก็เสนอนโยบายปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศเช่นกัน ด้วยการใช้นโยบายทางภาษีเพื่อการกีดกันสินค้าจากจีน และหันมาฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศ ด้วยการส่งเสริมให้มีการจ้างงานแรงงานภายในประเทศ

2 พลังงานและสิ่งแวดล้อม


ทรัมป์: มีแนวนโยบายในการฟื้นฟูพลังงานฟอสซิลมาตลอดตั้งแต่เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยก่อนหน้า เนื่องจากสหรัฐนั้นเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงรายใหญ่รายหนึ่งของโลก อีกทั้งยังมีปริมาณน้ำมันสำรองจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ของโลกอีกด้วย

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังมีความชัดเจนในการปกป้องอุตสาหกรรมยานยนต์สหรัฐ จึงมีแนวนโยบายในการยกเลิกการสนับสนุนนโยบายพลังงานสะอาด และ EV อย่างชัดเจน

แฮรีส: มีแนวนโยบายที่ตรงกันข้ามกับทรัมป์ เดินหน้าสานต่อแนวนโยบายในด้านนี้ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนต่อ ด้วยการให้เงินสนับสนุนธุรกิจเพื่อการส่งเสริมพลังงานสะอาด และ EV


3 แนวทางต่อชาติตะวันออกกลาง


ทรัมป์: สนับสนุนให้อิสราเอลในการแผ่ขยายอิทธิพลในภูมิภาคตะวันออกกลาง ต่อต้านอิหร่านที่เป็นคู่ปฎิปักษ์ต่อทั้งสหรัฐ และอิสราเอลต่อ แต่ทั้งนี้ ทรัมป์เพียงสนใจในด้านการค้าขาย โดยไม่สนใจในอุดมการณ์ทางการเมือง

แฮรีส: เองก็ให้การสนับสนุนอิสราเอลเช่นกัน แต่แฮรีสให้ความสนใจต่ออุดมการณ์ทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย และให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิมนุษยชนด้วย


4 แนวทางต่อสงครามรัสเซีย-ยูเครน


ทรัมป์: มีแนวนโยบายที่จะให้สหรัฐถอนตัวออกจากวงสงครามรัสเซีย-ยูเครน และต้องการให้สงครามยุติ โดยปล่อยให้สหภาพยุโรปรับผิดชอบต่อยูเครนเอาเอง ซึ่งนั่นหมายความว่าสหรัฐอาจจะมีการยกเลิกการให้การสนับสนุนยูเครนทั้งด้านการเงิน และยุทธปัจจัยนอนาคต

แฮรีส: มีแนวนโยบายที่จะดำเนินการให้การสนับสนุนยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซียต่อเนื่องจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน


5 ภาษีธุรกิจ


ทรัมป์: มีแนวทางในการ “ลด” ภาษีธุรกิจลงจาก 21% เหลือเพียง 15%-20%

แฮรีส: มีแนวทางในการ “เพิ่ม” ภาษีธุรกิจขึ้นจาก 21% เหลือเพียง 28%

6 นโยบายต่อผู้อพยพและผู้ลี้ภัย

ทรัมป์: สานต่อแนวทาง American First ปกป้องพลเมืองสหรัฐด้วยการเนรเทศผู้หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย

แฮรีส: มีแนวทางแบบเสรีนิยมโลกาภิวัตน์ (Neoliberal Globalization) ที่จะเปิดกว้างการให้สัญชาติแก่ผู้อพยพ และมุ่งขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ และขบวนการค้าทาสยุคใหม่ (Modern Slavery)

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า