
หากทักษิณครอบงำจริง ก็ควรรับผิด-แต่ไม่ใช่ยุบพรรค ‘พิธา’ ชี้เพื่อไทยควรรับผิดตามสัดส่วนแต่ไม่ควรถูกยุบพรรค
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงกรณีที่มีการยื่นคำร้องให้ยุบพรรคเพื่อไทย เนื่องจากนายทักษิณ ชินวัตร อาจจะครอบงำพรรคว่า
“เรื่องนี้ต้องพิจารณาความเหมาะสมของสัดส่วนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับบทลงโทษ ถ้าถูกครอบงำจริง บทลงโทษก็ควรได้สัดส่วนตามระดับของความผิด ไม่ใช่ทุกเรื่องจะต้องถูกยุบพรรคหมด คิดว่าไม่เป็นไปตามหลักการ และสามัญสำนึก
ส่วนรายละเอียด ไม่สามารถตอบได้ทั้งหมดเพราะยังไม่ได้อ่านคำร้อง แต่บทลงโทษต้องเป็นไปตามสัดส่วนความผิด ขณะเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญหรือ องค์กรที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ มีหน้าที่ปกปักษ์รัฐธรรมนูญ การเกิดรัฐประหาร โทษควรจะหนักกว่าการครอบงำพรรค แต่เหตุใดคนทำรัฐประหารไม่เห็นได้รับโทษเลย”
นายพิธากล่าวว่า พรรคการเมืองที่มีที่มาจากประชาชน ไม่ควรจะจบสิ้นโดยองค์กรอิสระ เนื่องจากจะทำให้เกิดคำถามว่าองค์กรอิสระมาจากไหน มีความโปร่งใสหรือไม่ และมีความรับผิดชอบอย่างไร
และกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยควรจะได้รับโอกาสในการชี้แจงข้อกล่าวหา เพราะถ้าได้ชี้แจง เรื่องจะจบที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ถึงศาลรัฐธรรมนูญ
สำหรับกรณีที่พรรคก้าวไกลถูกยุบก่อนหน้านี้นั้น นายพิธากล่าวว่า ในเวลานั้น พรรคก้าวไกลไม่มีโอกาสได้ชี้แจงตามระเบียบใหม่ที่เกิดขึ้นในภายหลัง แต่ในตอนนี้ระเบียบใหม่ได้เกิดขึ้นแล้ว และพรรคเพื่อไทย และทุกพรรคการเมืองก็ควรจะได้รับสิทธินั้น
และตนเองก็เคยได้แถลงแล้วว่า การพิจารณายุบพรรค ไม่ควรมี 2 มาตรฐาน ไม่ควรมีการยุบพรรคแบบทางด่วน และไม่ควรมีการยุบพรรคแบบทางธรรมดา และการให้พรรคชี้แจงเป็นสิทธิ ไม่ไปผูกขาดอำนาจของ กกต.