
“สิ่งที่พรรคเพื่อไทยกังวลเกี่ยวกับพรรคประชาชนในตอนจัดตั้งรัฐบาล คือความมีประสบการณ์น้อยทางการเมืองของพรรคประชาชน แล้วกลัวจะพูดกันยาก กลัวจะพูดกันไม่รู้เรื่อง”
นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุการณ์ในช่วงของการจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้งปี 2566 ว่าพรรคเพื่อไทยต้องสลับกลับฝั่ง เพราะต้องการเห็นการเมืองแบบสมานฉันท์ การเมืองที่ไม่ต้องเผชิญหน้า ตึงเครียดระหว่างกัน โดยมีการรัฐประหารเป็นเหมือนมีดที่จ่อคออยู่ตลอดเวลา
และนี่คือบรรยากาศในการพูดคุยกันระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในช่วงเวลานั้นที่ฮ่องกง (ดีลฮ่องกง) ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องการร่วมรัฐบาลในภายหลัง แต่เป็นการพูดคุยถึงแนวทางทางการเมืองในอนาคตว่าควรจะเป็นการปฎิรูป (Reform) หรือการปฎิวัติ (Revolution)
ส่วนการพูดคุยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลนั้น ไม่จำเป็นจะต้องมาเถียงกัน เพราะมีผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์หลายคน ให้ไปถามคนเหล่านั้นก็แล้วกันว่าเรื่องมาตรา 112 นั้นเป็นเรื่องสำคัญ
สำหรับสาเหตุที่พรรคเพื่อไทยในเวลานั้น จับมือกับพรรคก้าวไกลไม่ได้นั้น ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการกลับบ้านของนายทักษิณ เพราะว่านายทักษิณต้องการที่จะกลับบ้านมานานแล้ว และสาเหตุที่ต้องกลับบ้านในช่วงเวลาที่มีการจัดตั้งรัฐบาลนั้น ก็เพื่อที่จะทำงานให้เกิดความสมานฉันท์ ในแบบที่ซีกหนึ่งของประเทศคิดว่านี่คือความสมานฉันท์
“พูดง่าย ๆ ก็คือว่า คิดว่าสมานฉันท์ในตอนนั้นเนี่ย คือการไม่นำเอาแนวความคิดบางอย่างขึ้นมาสู่โต๊ะของการจัดตั้งรัฐบาลผสม นี่คือแนวคิด จะถูกหรือจะผิดก็ตาม ซึ่งทำให้คนหลายคนซึ่งเชียร์แนวคิดนั้นเนี่ย ผิดหวัง แล้วมีความรู้สึกว่าทำไมมันต้องมีเว้น ทำไมมันถึงต้องไม่รวมกันหมด” นายจักรภพกล่าว
นายจักรภพกล่าวว่าผลการเลือกตั้งที่ออกมานั้น พรรคก้าวไกลได้รับคะแนนเสียงมากกว่าที่พรรคเพื่อไทย และแม้แต่พรรคประชาชนก็คาดไม่ถึงมาก่อน พอมันกลายเป็นข้ามไป มันเกิดคำถามที่ทุกคนพยายามจะไม่ถามว่า เอาแน่หรือ ซึ่งนำให้เข้ามาสู่บรรยากาศในการคุย
“เท่าที่ผมรู้ สิ่งที่พรรคเพื่อไทยกังวลเกี่ยวกับพรรคประชาชนในตอนนั้น (ตอนจัดตั้งรัฐบาล) คือความมีประสบการณ์น้อยทางการเมืองของพรรคประชาชน แล้วกลัวจะพูดกันยาก กลัวจะพูดกันไม่รู้เรื่อง เพราะอย่างในพรรคอื่น เขาก็แบบ… ศิษย์เก่าน่ะ นักเรียนแก่น่ะ นักเรียนไทยรักไทยทั้งนั้น เพราะนั้นก็คิดถึงว่าทำอย่างไรที่จะเดินหน้าได้เร็ว
อย่าลืมว่านายกฯ คือนายกฯ แพรทองธาร (ชินวัตร) ซึ่งก็มีเรื่องต้องพิสูจน์ตัวท่านเอง มีบทเรียนทางการเมืองที่ต้องผ่านให้ได้ ถ้าหากตัว Body คือตัวร่างกายของรัฐบาล คือรัฐบาลผสมยุ่งยากขึ้นอีกเนี่ย จะไปลำบาก ผมคิดว่าเป็นเรื่องของความคิดในเชิงวิวัฒนาการของรัฐบาลมากกว่า” นายจักรภพกล่าว
นายจักรภพกล่าวว่า นี่ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน จะร่วมรัฐบาลกันในอนาคตไม่ได้ ถ้าหากว่าเหตุการณ์พัฒนาไป