
กฟภ. ต้องตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทันที!! ‘ภูมิธรรม’ ชี้ ‘กฟภ.’ มีอำนาจตัดไฟเองอยู่แล้วหากเห็นว่า การจ่ายไฟฟ้ากระทบความมั่นคงของชาติ
ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกล่าวถึงอำนาจในการตัดไฟฟ้าในชายแดนเมียนมา ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ว่า การขายไฟฟ้าให้เมียนมาเกิดขึ้นตามมติ ครม. ในปี 2535 – 2537 2 ครั้ง โดยครั้งแรกคือให้ขายไฟให้เมียนมา และต่อมาคือให้ขายไฟตามแนวชายแดนได้โดยไม่ต้องเข้า ครม.
ดังนั้น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มีอำนาจตามระเบียบของ กฟภ. โดยเฉพาะในข้อ 51.1 และ 51.2 กฟภ.งดจ่ายไฟฟ้าได้หากพิจารณาเห็นว่าการจ่ายไฟฟ้ากระทบความมั่นคงของชาติ
ข้อมูลจากศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ในช่วงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2565 ถึงมิถุนายน พ.ศ. 2567 มีคนไทยตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กว่า 5 แสนคน สร้างความเสียหายรวมกว่า 6 หมื่นล้านบาท และปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในหลายมิติ รวมถึงมิติด้านเศรษฐกิจ
ดังนั้น หากมีข้อมูลว่าผู้ซื้อไฟฟ้าจาก กฟภ. ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือแก๊งอาญชากรรมข้ามชาติ กฟภ.สามารถใช้สิทธิตามสัญญาจ่ายไฟฟ้าให้น้อยลงหรืองดจ่ายไฟฟ้าได้
เรื่องนี้ทำให้ตนไม่สบายใจที่มีการโยนกันไปมา โดยที่ยังไม่มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ทั้งที่มีข้อมูลบ่งชี้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งเมื่อวานนี้ (3 ก.พ. 2568) ตนได้สั่งการให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานปฏิบัติงาน เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กระทรวงการต่างประเทศ ตำรวจ และทหาร มาประชุมเพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา
ที่ประชุมยืนยันว่าปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศจริง โดยมีข้อมูลสนับสนุนจาก สมช. และได้รับรายงานว่า กฟภ. มีอำนาจในการจัดการปัญหาได้ทันที หากพบว่ามีการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง โดยไม่จำเป็นต้องรอการชี้ขาดจาก สมช.
ตนได้รับรายงานมาว่ามีการใช้ไฟฟ้าที่มากขึ้นผิดปกติ ซึ่งเมื่อพบข้อมูลนี้ควรจะเข้าไปดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ ไม่ใช่จะขายไฟฟ้าอย่างเดียว หลังจากพิจารณาข้อมูลดังกล่าวแล้วตนคิดว่าการค่อยๆ ตัดไฟอาจจะช้าเกินไป เพราะปัญหารุนแรงแล้ว
“วันนี้ผมจะสั่งการไปยัง สมช.ให้แจ้ง กฟภ. เรื่องนี้รุนแรง จะต้องไปดำเนินการให้ตัดไฟทันที ไม่ใช่มารอโยกไปมาเหมือนที่เกิดขึ้นและกำลังเป็นปัญหา ให้แจ้ง กฟภ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้บังคับหน่วยส่วนไหนหรือผู้รับผิดชอบหน่วยไหน หากไม่ปฏิบัติให้เกิดผลโดยทันที ผมจะยืมตัวมาช่วยราชการ ขอให้ปฏิบัติทันทีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป” ภูมิธรรมกล่าว
และกล่าวว่า ทั้ง ๆ ที่สังคมรับรู้ แต่เหตุใดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่รับรู้อีก ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบกัน และตนเองในฐานะรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงสามารถออกคำสั่งให้ตัดไฟได้ ไม่ต้องรอให้ถึง ครม.หรือนายกฯ และกระทรวงต่างประเทศจะต้องทำหน้าที่ด้วย ไม่ปล่อยปละละเลยตามสิ่งที่ควรปฏิบัติ แต่ใครที่รู้สึกว่ายังรอโน่นรอนี่อยู่ ตนจะใช้มาตรการเด็ดขาด
ตนไม่สนใจว่าใครจะมีนอกมีในอะไร แต่การขายไฟให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์มีความเสียหายมากกว่าไฟที่ขาย ดังนั้นเรื่องนี้ต้องจัดการให้จบ ไม่ต้องมาถามอีกว่าเพราะอะไร กฟภ. จึงไม่ตัดไฟ
เมื่อถามว่าจะต้องมีการพูดคุยกับอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกฯ และ รมว. มหาดไทยอีกหรือไม่ ภูมิธรรมกล่าวว่าตนบอกผ่านสื่อแล้ว และจะสั่งการผ่าน สมช. อีกครั้ง
เมื่อถามว่านอกจากการยืมตัวมาช่วยแล้ว จะยังมีมาตรการอื่นอีกหรือไม่ ภูมิธรรมกล่าวว่า การยืมตัวมาช่วยราชการก็ถือว่าหนักแล้ว แต่จะมีมาตรการอื่นอีกหรือไม่ ต้องดูตามฐานความผิด
เมื่อถามว่าจะตัดไฟเฉพาะเฉพาะเมือง ชเว โก๊กโก่ และพีพีพาร์ก หรือไม่ ภูมิธรรมกล่าวว่า ให้ดูตามข้อเท็จจริง ตนสั่งการชัดเจนแล้วว่าเรื่องนี้มีปัญหา ก็ต้องมีการปฏิบัติที่ชัดเจนเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหา ไม่ใช่มาโยกโย้
เมื่อถามว่า เมืองเมียวดีซื้อไฟจากไทย 90% ถ้าตัดก็จะดับหมดทั้งเมือง ภูมิธรรมกล่าวว่า นั่นเป็นพื้นที่ของเขา เขาต้องควบคุมคนของตัวเอง หากปล่อยให้พื้นที่เหล่านั้นสร้างปัญหา เขาก็ต้องรับผิดชอบ และต้องการจัดการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้จบ หากไม่จบก็ต้องรับผล เราไม่ใช่แม่พระใจดี ส่งขายไฟให้แล้วมาทำอะไรแบบนี้แล้วเรายังนิ่งเฉยอยู่หรือ