เปิดโครงการ หนึ่งหมู่บ้านหนึ่งเชฟอาหารไทย ‘แพทองธาร’ เชื่ออาหารไทย จะเป็นประตูบานใหญ่ ที่ทำให้คนทั่วโลกหลงรักประเทศไทย

น.ส. แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์สาขาอาหาร และกล่าวในหัวข้อ “Soft Power Food” กับการพัฒนาของประเทศไทย ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 

นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม  นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ หน่วยงานภาคีเครือข่าย 8 หน่วยงาน คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชนเข้าร่วม

น.ส. แพทองธาร โพสต์สื่อโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับงานนี้ โดยมีข้อความว่า

จุดเริ่มต้นการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารไทย

จุดเริ่มต้น ส่ง ‘เชฟไทย’ ไปทั่วโลก

กับโครงการ หนึ่งหมู่บ้านหนึ่งเชฟอาหารไทย เริ่มต้นขึ้นแล้วค่ะ 

โครงการ หนึ่งหมู่บ้านหนึ่งเชฟอาหารไทย จะพัฒนาศักยภาพพี่น้องประชาชนที่มีความสามารถในการทําอาหาร ให้ได้มีโอกาสเรียนรู้ เพื่อเป็นเชฟมืออาชีพ เมื่อจบหลักสูตรก็พร้อมที่จะทํางานในร้านอาหาร พร้อมเผยแพร่อาหารไทยที่รสชาติไทยแท้ ให้ทั่วโลกได้ลิ้มรสในหลายรูปแบบ ทั้งอาหารโบราณ อาหารชาววัง อาหารประจำถิ่น 

เมื่อเราผลิตเชฟอาหารไทย เราจะสนับสนุนให้พวกเขาไปทำงานที่ร้านอาหารไทยทั่วโลก หรือเปิดร้านอาหารไทยในต่างประเทศ ทำให้ร้านอาหารไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นค่ะ

ร้านอาหารไทยในต่างประเทศ ไม่ใช่แค่ร้านอาหาร แต่เปรียบเสมือน ทูตวัฒนธรรมไทย เพราะเวลาลูกค้ามาทานอาหาร นอกจากอาหารอร่อยแล้ว ต้องเรียนรู้การทานแบบสำรับ การกิน ‘ข้าว‘ พร้อม ‘กับข้าว‘ ได้เรียนรู้ภาษาไทยในชื่อเมนู ได้ฟังเพลงไทยในร้านอาหาร ได้เรียนรู้สถาปัตยกรรมแบบไทย ซึ่งดิฉันเชื่อมั่นว่าอาหารไทย จะเป็นประตูบานใหญ่ ที่ทำให้คนทั่วโลกหลงรักประเทศไทยในด้านอื่นๆ ตามมาค่ะ 

เมื่อมีร้านอาหารไทยมากขึ้น ก็ต้องมีการพัฒนาการส่งออกวัตถุดิบ โดยใช้เทคโนโลยีการถนอมอาหาร ทำให้วัตถุดิบ ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ เครื่องปรุง คงความสดใหม่และมีอายุนานขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีในการทำอาหารสำเร็จรูป การรีทอร์ท การแชร์แข็ง เป็นสิ่งที่เราต้องการผลักดัน เพื่อให้สามารถส่งออกอาหารไทยไปยังทั่วโลกได้

เราจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้อุตสาหกรรมอาหารไทยทั้งระบบ ตั้งแต่เกษตรกร โรงงานแปรรูปอาหาร ธุรกิจส่งออกอาหาร ร้านอาหารไทย และอีกหลายภาคส่วนที่จะได้ประโยชน์ ที่จะทำให้ไทยเป็นครัวโลกได้อย่างเป้าหมาย 

ทั้งหมดนี้คือ ยุทธศาสตร์ Soft Power ด้านอาหาร ที่รัฐบาลมองเห็นและเรากำลังมุ่งไปค่ะ 

ในโอกาสนี้ ดิฉันขอขอบคุณกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวง อว. คณะกรรมการอาชีวศึกษา กรมอนามัย กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สถาบันพัฒนาคุณวุฒิวิชาชีพ และสำนักงานกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมืองแห่งชาติ ที่ได้มาลงนามบันทึกข้อตกลงในวันนี้ 

รวมถึงหน่วยงานภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ที่ได้ร่วมกันสร้าง ECOSYSTEM ที่สมบูรณ์สำหรับการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารไทยให้พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดค่ะ

รัฐบาลจะให้การสนับสนุนการดำเนินงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ 

เพื่อพี่น้องประชาชนคนไทยที่รักทุกคนค่ะ