เนทันยาฮู อ้างความชอบ ในการโค่นล้ม ปธน.อัสซาด ชี้เพราะอิสราเอลเปิดการโจมตีใส่อิหร่านและฮิซบอลเลาะห์
นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล เมื่อวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) กล่าวอ้างว่าการล่มสลายของรัฐบาลบาชาร์ อัล อัสซาด ในซีเรียเป็น “ผลโดยตรง” จากการที่อิสราเอลใช้กำลังทหารโจมตีใส่อิหร่านและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
“วันนี้คือวันแห่งประวัติศาสตร์ในตะวันออกกลาง” “ระบอบการปกครองของอัสซาดซึ่งเป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญในแกนแห่งความชั่วร้ายของอิหร่านได้ล่มสลายแล้ว” “นี่เป็นผลโดยตรงจากการโจมตีที่เราได้กระทำต่ออิหร่านและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นกลุ่มสนับสนุนหลักของระบอบการปกครองของอัสซาด ซึ่งได้สร้างปฏิกิริยาลูกโซ่ให้กับบรรดาผู้ที่ต้องการหลุดพ้นจากระบอบการปกครองเผด็จการที่กดขี่ประชาชน ไปทั่วทั้งตะวันออกกลาง” เนทันยาฮู กล่าวในแถลงการณ์
กองกำลังต่อต้านรัฐบาล รวมถึงกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ที่เรียกตัวเองว่า ฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม (Hayat Tahrir al-Sham) หรือ HTS (อดีตกลุ่มก่อการร้าย อัล-นุสรา) และกองทัพปลดปล่อยซีเรีย (FSA) ที่มีตุรกีหนุนหลัง บุกโจมตีกรุงดามัสกัสในวันเสาร์ (7 ธ.ค.) ขณะที่กองทัพซีเรียถอนกำลัง และบาชาร์ อัล-อัสซาด อดีตประธานาธิบดีซีเรีย หลบหนีออกนอกประเทศไปยังรัสเซีย
อาบู โมฮัมเหม็ด อัล-โกลานี (Abu Mohammed al-Golani) ผู้นำกลุ่ม HTS ประกาศชัยชนะในแถลงการณ์ทางโทรทัศน์เมื่อวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) โดยระบุว่า “จากนี้ไปอนาคตเป็นของเรา”
กองกำลัง HTS ได้เปิดฉากโจมตีกองทัพซีเรียในในเมืองอิดลิบ (Idlib) และเมืองอเลปโป (Aleppo) ทางตอนเหนือของซีเรียอย่างกะทันหันเมื่อปลายเดือนที่แล้ว และยึดเมืองสำคัญหลายแห่งตามถนนทางใต้ไปยังกรุงดามัสกัสได้อย่างรวดเร็ว
ตั้งแต่แรกเริ่ม รัฐบาลอัสซาดยืนกรานว่ากองกำลังของกลุ่ม HTS นั้นประกอบด้วยนักรบต่างชาติจำนวนมาก ในขณะที่กระทรวงต่างประเทศของรัสเซียอ้างว่า ผู้ก่อการร้ายได้รับการฝึกฝนจากหน่วยข่าวกรองทางทหารของยูเครน
แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนว่า อัล-โกลานี ประสานงานกับสหรัฐฯ และอิสราเอลก่อนการโจมตีหรือไม่ แต่เจมส์ เจฟฟรีย์ ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการซีเรีย กล่าวในปี 2021 ว่ากลุ่ม HTS เป็นประโยชน์ (asset) ต่อแผนการของรัฐบาลสหรัฐฯ ในเมืองอิดลิบ ขณะที่ อัล-โกลานี เองก็ยืนกรานว่าเขาไม่ได้ต่อสู้กับชาติตะวันตก แต่ต่อสู้กับอัสซาดและอิหร่าน
“พวกเรารักอิสราเอล และพวกเราไม่เคยเป็นศัตรูต่อกัน” นักรบญิฮาดในเมืองอิดลิบกล่าวกับสื่ออิสราเอลในการให้สัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ เขายังระบุด้วยว่า “อิสราเอลไม่ได้เป็นปรปักษ์กับคนที่ไม่เป็นปรปักษ์ต่อพวกเขา พวกเราไม่ได้เกลียดพวกคุณ (อิสราเอล) พวกเรารักพวกคุณมาก”
อิสราเอลใช้ประโยชน์จากการล่มสลายของ ปธน.อัสซาด ด้วยการเคลื่อนพลทหารเข้าไปในพื้นที่บริเวณที่ราบสูงโกลัน ซึ่งเคยเป็นเขตกันชนระหว่างอิสราเอลกับซีเรียมาตั้งแต่มีการลงนามข้อตกลงในปี 1974 หลังสงครามยม-คิปปูร์ (Yom Kippur)
ทั้งนี้ ในคำปราศรัยเมื่อวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) เนทันยาฮูกล่าวว่า ข้อตกลงกับซีเรียในปี 1974 ถือเป็นโมฆะแล้ว หลังจากที่กองกำลังของรัฐบาลซีเรียแตกพ่ายไป และตอนนี้เขากำลังดำเนินการทุกวิถีทาง “เพื่อปกป้องชายแดนของอิสราเอล”