
Tesla ไม่กระทบมาก อีลอน มัสก์ ชี้นโยบายเลิกหนุนรถ EV ของทรัมป์ จะเป็นอันตรายกับคู่แข่งมากกว่า Tesla
อีลอน มัสก์ ซีอีโอของ Tesla กล่าวเมื่อวันอังคาร (23 ก.ค.) ว่า นโยบายของ ทรัมป์ ที่จะยกเลิกการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) อาจส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ มากกว่า Tesla
“มันคงเป็นหายนะสำหรับคู่แข่งของเรา และแม้ว่ามันจะส่งผลกระทบต่อ Tesla ด้วย แต่ในระยะยาวผมคาดว่าจะเป็นผลดีต่อ Tesla มากกว่า” มัสก์ กล่าวในการประชุมทางโทรศัพท์ หลังจากที่ Tesla รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ด้วยกำไรต่ำสุดในรอบ 5 ปี
อดีตประธานาธิบดี ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากมัสก์ วิจารณ์นโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลไบเดน และประกาศว่าจะ “ยุติมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า” หากเขาชนะการเลือกตั้ง แม้ว่าจะยังไม่ได้ให้รายละเอียดแผนของเขาก็ตาม
มัสก์ กล่าวว่า ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อยอดขายรถยนต์ของ Tesla จากการยกเลิกมาตรการอุดหนุนรถ EV ของทรัมป์นั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ เนื่องจาก Tesla เป็นบริษัทที่มุ่งเน้นด้านปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติเป็นหลัก
“คุณค่าของ Tesla อยู่ที่ระบบขับขี่อัตโนมัติ ส่วนเรื่องอื่นๆ เป็นเพียงแค่ ‘Noise’ หรือ ‘เสียงรบกวน’” มัสก์กล่าว
มัสก์ ประกาศสนับสนุนทรัมป์อย่างเป็นทางการหลังเกิดเหตุการณ์พยายามลอบสังหารทรัมป์เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา ทำให้เกิดความสับสนในหมู่แฟนๆ Tesla ที่ตั้งคำถามว่านโยบายของทรัมป์จะช่วย Tesla ได้อย่างไร
ระหว่างกล่าวสุนทรพจน์รับเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงชิงตำแหน่งปธน.อย่างเป็นทางการ ณ ที่ประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน (RNC) ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซินของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ทรัมป์ ประกาศว่า รัฐบาลของเขาจะเรียกเก็บภาษีนำเข้า 100-200% สำหรับรถยนต์ที่ผลิตในเม็กซิโก เพื่อให้ขายไม่ได้ในตลาดสหรัฐฯ
ต่อมา ในวันที่ 23 ก.ค. มัสก์ เปิดเผยว่า Tesla ได้ระงับแผนการสร้างโรงงานในเม็กซิโกชั่วคราว และจะประเมินการลงทุนในโรงงาน Gigafactory แห่งใหม่ในเม็กซิโกอีกครั้งหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
“ทรัมป์ ประกาศว่าเขาจะเก็บภาษีรถยนต์ที่ผลิตในเม็กซิโกอย่างหนัก ดังนั้นจึงไม่สมเหตุสมผลที่จะลงทุนในเม็กซิโก” มัสก์ กล่าว
มัสก์ ระบุว่า Tesla กำลังเพิ่มกำลังการผลิตในโรงงานที่มีอยู่ และมีแผนที่จะผลิตรถแท็กซี่ไร้คนขับ (robotaxi) ที่โรงงานในเท็กซัส