ผู้อพยพคิดเป็นเกือบ 67% อาชญากรทางเพศในลอนดอน โดยคิดเป็นแนวโน้มมากกว่าพลเมืองอังกฤษ 3 เท่า
ชาวต่างชาติมีแนวโน้มที่จะถูกจับกุมในข้อหาอาชญากรรมทางเพศในสหราชอาณาจักรมากกว่าพลเมืองอังกฤษถึง 3 เท่า ตามการวิเคราะห์ของศูนย์ควบคุมการย้ายถิ่นฐานโดยใช้ข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS)
ตำรวจในอังกฤษและเวลส์จับกุมชาวต่างชาติในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศมากกว่า 9,000 คน ในช่วง 10 เดือนแรกของปีที่แล้ว ซึ่งคิดเป็น 26.1% ของจำนวนการจับกุมคดีล่วงละเมิดทางเพศทั้งหมดประมาณ 35,000 คน และคิดเป็นเกือบ 67% ของผู้ถูกจับกุมในข้อหาอาชญากรรมทางเพศในลอนดอน
ซึ่งหมายความว่าชาวต่างชาติมีแนวโน้มที่จะถูกจับในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศมากกว่าชาวอังกฤษถึง 3.5 เท่า โดยอ้างอิงจากอัตราการจับกุมเกือบ 165 ครั้งต่อประชากรผู้อพยพ 100,000 คน เมื่อเทียบกับ 48 ครั้งต่อประชากรชาวอังกฤษ 100,000 คน
เมื่อพิจารณาจากคดีอาชญากรรมทั้งหมด รายงานระบุว่า ชาวต่างชาติถูกจับกุมมากกว่าชาวอังกฤษ 2 เท่า โดยมีการจับกุม 131,000 ครั้ง ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ต.ค. 2024 แม้ว่าชาวต่างชาติจะคิดเป็นสัดส่วน 9% ของประชากรในอังกฤษทั้งหมด แต่ชาวต่างชาติคิดเป็นสัดส่วนกว่า 16% ของจำนวนการจับกุมทั้งหมด
เมื่อแยกตามสัญชาติพบว่า ชาวแอลเบเนียถูกจับกุมในข้อหาอาชญากรรมทางเพศมากที่สุด รองลงมาคือ ชาวอัฟกัน อิรัก และแอลจีเรีย ขณะที่ชาวโรมาเนียถูกจับกุมในข้อหาอาชญากรรมมากที่สุด รองลงมาคือ ชาวโปแลนด์ ชาวแอลเบเนีย ชาวอินเดีย ชาวปากีสถาน และชาวไนจีเรีย
รายงานดังกล่าวถูกเผยแพร่ท่ามกลางข้อกล่าวหาที่ว่ารัฐบาลจงใจปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับสถิติอาชญากรรมของผู้อพยพ รายงานที่เผยแพร่เมื่อปี 2013, 2014 และ 2015 ระบุว่า นักการเมืองท้องถิ่นและตำรวจต่างเลือกที่จะปกปิดคดีข่มขืน โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะเกรงว่าการนำตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษจะถูกมองว่าเป็นการ “เหยียดเชื้อชาติ”