
โควิดทำอัตรากินนมแม่ลดฮวบเหลือ 14% ชงเพิ่มวันลาคลอดจาก 3 เดือน เป็น 6 เดือน ตั้งเป้าให้เด็กไทย 50% ได้กินนมแม่อย่างเดียวถึง 6 เดือน
เตรียมดันออกกฎหมายเพิ่มวันลาคลอดจาก 3 เดือน เป็น 6 เดือน หลังโควิดระบาดพบอัตราทารกกินนมแม่ลดฮวบ จากเดิม 23% เหลือ 14%
หลังการลงนามบันทึกข้อตกลงการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ระหว่างกรมอนามัยและมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เผยว่า การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นับเป็นรากฐานที่สำคัญของสุขภาพทารกที่ดี เพราะอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ และเป็นวัคซีนหยดแรกในการสร้างภูมิคุ้มกันของทารก
กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จึงส่งเสริมให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก คือ ตั้งแต่ 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด และกินนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนแรก จากนั้นจึงกินนมแม่ควบคู่กับอาหารตามวัยจนถึง 2 ขวบ ทั้งนี้ตั้งเป้าให้เด็กไทย 50% กินนมแม่อย่างเดียวถึง 6 เดือน
ด้าน พญ.ศิริพร กัญชนะ ประธานมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากข้อมูลการกินนมแม่ของประเทศไทยล่าสุดปี 2565 อยู่ที่ 14% ลดจากปี 2562 ที่ 23% ซึ่งเป็นเหมือนกันทั่วโลก เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด 19 ทำให้ต้องมีการผ่าคลอด และแยกลูกออกจากแม่ทันที เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ดังนั้น การจะทำให้ถึงเป้าหมาย 50% ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน
กรมอนามัยและศูนย์นมแม่ฯ จึงได้ร่างยุทธศาสตร์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ซึ่งจะมีการประชาพิจารณ์ในเดือน มิ.ย.นี้ โดยมี 4 ประเด็น คือ
1.การขับเคลื่อนนโยบายและกฎหมาย การผลักดันให้ออกกฎหมายอนุญาตให้ผู้หญิงลาคลอดได้ 6 เดือน โดยได้รับเงินเดือน จากที่ปัจจุบันลาได้ 3 เดือน หากไม่ออกกฎหมายดังกล่าวก็ต้องสนับสนุนงบประมาณ และจัดหาคนดูแลที่มีคุณภาพมาช่วยดูแล
2.การปลูกฝังและสร้างค่านิยมกินนมแม่
3.การพัฒนาคุณภาพระบบบริการ
4.การจัดการความรู้และนวัตกรรม
#TheStructureNews
#ลาคลอด #นมแม่
ไม่เจรจาสันติภาพ ‘ยูเครน’ ลั่น จะไม่เจรจาสันติภาพ ตามเงื่อนไขของรัสเซียทุกประการ
พร้อมใช้ทุกฟังก์ชัน ม.ค.นี้ แอปพลิเคชัน “SAWASDEE by AOT” Super App ตัวช่วยหลักของนักท่องเที่ยวตลอดการเดินทาง
“มื้อนี้เปลี่ยนโลก” CPF รับรางวัลความช่วยเหลือด้านอาหารดีเด่น ส่งเสริมการเข้าถึงอาหารในทุกสถานการณ์
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม