
จุดยืนความเป็นกลาง กับโอกาสของมาเลเซีย ด้วยนยโบายเปิดกว้าง เป็นมิตร ต้อนรับทั้งสหรัฐ-จีน พร้อมดึงดูดการลงทุนด้าน “เซมิคอนดักเตอร์”
“ภูมิทัศน์ทางการเมืองที่มั่นคงของมาเลเซีย และความเปิดกว้างในการมีส่วนร่วมกับทั้งจีนและสหรัฐฯ ท่ามกลางการแข่งขันของมหาอำนาจที่ยังคงดำเนินอยู่ ทำให้มาเลเซียเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่แข็งแกร่ง และยังส่งเสริมการเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่มีการแข่งขันสูง” Tengku Zafrul Aziz รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรม มาเลเซีย กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (12 ก.ย.) ในงานเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการค้าครบรอบ 50 ปี ระหว่างจีน-มาเลเซีย
Zafrul กล่าวว่าผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่า บริษัทจีนจำนวนมากได้ขยายกิจการไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรที่สหรัฐฯ กำหนดกับบริษัทต่างๆ ที่มีฐานการผลิตอยู่ในจีน ซึ่งมาเลเซียต้องมั่นใจว่าบริษัทเหล่านี้ปฏิบัติตามมาตรฐานที่องค์การการค้าโลกกำหนดไว้หากต้องการมาดำเนินการในมาเลเซีย โดยทางรัฐบาลกำลังทำงานร่วมกับสหรัฐฯ ในข้อกังวลบางประการที่พวกเขามีเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงนี้
ขณะเดียวกัน Zafrul ได้เน้นย้ำว่าความสัมพันธ์กับจีนยังคงแข็งแกร่ง โดยระบุว่า ปริมาณการค้าระหว่างทั้งสองประเทศมีมูลค่าเกือบ 200,000 ล้านดอลลาร์ (6.65 ล้านล้านบาท) ในปีที่แล้ว
“บริษัทจีนและบริษัทมาเลเซียต่างก็มีส่วนร่วมอย่างมากในตลาดของกันและกันในแง่ของการลงทุน” Zafrul กล่าว
Zafrul ระบุว่า มาเลเซียจะให้ความสำคัญกับการลงทุนที่สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เหมาะสมต่อประเทศ ซึ่งรวมถึงการจ้างงานที่มีคุณภาพ และผลประโยชน์ต่อบริษัทในประเทศ
“เราหวังว่าพวกเขาจะใช้บริษัทมาเลเซียเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทาน… เราจะมีสิ่งจูงใจที่จะสนับสนุน การลงทุนเหล่านี้”
“ท้ายที่สุด จุดประสงค์พื้นฐานของการค้าคือการส่งเสริมความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งจะส่งเสริมเสถียรภาพและสันติภาพในที่สุด อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับประโยชน์… ผมมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในเชิงภูมิรัฐศาสตร์เป็นเรื่องที่น่ากังวล เราต้องเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุด แต่สิ่งที่เราทำได้คือการยึดมั่นในการเป็นตัวของตัวเองและเป็นกลาง ผมไม่คิดว่าประเทศใดควรบังคับใช้กฎเกณฑ์ใดๆ กับผู้มีอำนาจอธิปไตยใดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นเรื่องของนโยบายต่างประเทศ การลงทุน และนโยบายการค้า” Zafrul กล่าว
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม เคยกล่าวว่ามาเลเซียเป็นทางออกที่ดีที่สุดของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลกที่ต้องการหลบภัยจากสงครามเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ตึงเครียดมากขึ้น ในฐานะที่เป็น “สถานที่ที่เป็นกลางและไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด” พร้อมเสริมว่า มาเลเซียตั้งเป้าดึงดูดเม็ดเงินลงทุนด้านเซมิคอนดักเตอร์อย่างน้อย 106,000 ล้านดอลลาร์ (3.52 ล้านล้านบาท) ภายใต้กลยุทธ์เซมิคอนดักเตอร์แห่งชาติฉบับใหม่
(1 ดอลลาร์ = 33.25 บาท)