แบนบริษัทจีนอีก 140 แห่ง หวังคุมไม่ให้จีนมีเครื่องมือผลิตชิป พร้อมจำกัดการส่งออกชิปสำหรับฝึก AI และซอฟต์แวร์ออกแบบชิป
สหรัฐฯ ประกาศมาตรการจำกัดอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีนรอบล่าสุดเมื่อวานนี้ (2 ธ.ค.) ครอบคลุมถึงการจำกัดการส่งออกชิปหน่วยความจำขั้นสูงที่จำเป็นสำหรับการใช้งานระดับไฮเอนด์ เช่น การฝึก AI รวมถึงมาตรการควบคุมอุปกรณ์ผลิตชิป 24 รายการ และซอฟท์แวร์สำหรับการออกแบบชิป 3 รายการ มาตรการควบคุมการส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิปที่ผลิตในประเทศต่างๆ เช่น สิงคโปร์ และมาเลเซีย และได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทจีน 140 แห่ง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นหนึ่งในความพยายามครั้งสุดท้ายของรัฐบาลไบเดนที่จะขัดขวางจีนในการเข้าถึงชิปและอุปกรณ์ผลิตชิปที่สามารถใช้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์สำหรับการใช้งานทางทหาร หรือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ และเกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่จากพรรครีพับลิกันจะเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งคาดว่าจะยังคงใช้มาตรการเข้มงวดต่อจีน
สำหรับบริษัทจีนที่ได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดใหม่ ได้แก่ บริษัทเซมิคอนดักเตอร์กว่า 20 แห่ง บริษัทการลงทุน 2 แห่ง และผู้ผลิตเครื่องมือผลิตชิปกว่า 100 แห่ง ซึ่งรวมถึง Swaysure Technology Co, Si’En Qingdao และ Shenzhen Pensun Technology Co ซึ่งปัจจุบันกำลังทำงานร่วมกับ Huawei ที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรไปก่อนหน้านี้ และปัจจุบันมีบทบาทสำคัญในการผลิตและพัฒนาชิปขั้นสูงของจีน โดยบริษัทเหล่านี้จะถูกเพิ่มเข้าในรายชื่อนิติบุคคล ซึ่งห้ามซัพพลายเออร์ของสหรัฐฯ จัดส่งสินค้าให้เว้นแต่จะมีใบอนุญาตพิเศษ
มาตรการล่าสุดยังจะขยายอำนาจของสหรัฐฯ ในการควบคุมการส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิปของผู้ผลิตอเมริกัน ญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์ ที่ทำการผลิตในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก และจัดส่งไปให้โรงงานชิปบางแห่งในจีน โดยอุปกรณ์ที่ผลิตในอิสราเอล มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และไต้หวันอยู่ภายใต้ข้อจำกัดดังกล่าว ในขณะที่อุปกรณ์ที่ผลิตในญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์จะได้รับการยกเว้น
ด้าน หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ออกมาตอบโต้ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (2 ธ.ค.) โดยกล่าวว่า พฤติกรรมของสหรัฐฯ เป็นการบ่อนทำลายระเบียบการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และขัดขวางห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก และจีนจะดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของบริษัทจีน
#TheStructure
#TheStructureNews
#สหรัฐ #จีน #เซมิคอนดักเตอร์