![](https://thestructure.live/wp-content/uploads/2023/10/Q-จตุพร-แนวนอน-1.jpg)
ถ้าแน่จริง เอาเงินเดือนนายก ฯ เงินเดือนรัฐมนตรี ส.ส. สว. ข้าราชการทุกคน ให้เป็นดิจิทัลวอลเล็ตก่อน จตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน วันที่ 17 ต.ค. 66
17 ต.ค. 66 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชนโพสต์เฟสบุ๊ค วิจารณ์นโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน
นายจตุพรกล่าวว่า ถึงแม้ว่าจะมีเสียงต่อต้านนโยบายดังกล่าว แต่ก็จะไม่มีใครสามารถที่จะหยุดยั้งรัฐบาลของนายเศรษฐา มิให้ดำเนินนโยบายนี้ได้ นอกจากคุก โดยกลไกแรกเลยคือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ทั้ง 9 ท่าน ซึ่งขอเพียงมีเสียงเห็นด้วยจากคณะกรรมการ 5 คนก็เพียงพอแล้ว ซึ่งในนี้มี 3 ท่านที่มาจากผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งเป็นผู้ส่งเรื่อง นอกจากนี้ยังมีคณะกรรมการศาลรัฐธรรมนูญอีก 9 ท่าน และองค์คณะในศาลฎีกา
นายจตุพรยังตั้งคำถามว่า วงเงินกู้ 5.6 แสนล้านสำหรับโครงการนี้ ต้องเสียดอกเบี้ยเงินกู้เท่าไร ? มีความคุ้มค่าหรือไม่ ? ทำบล็อกเชนใหม่เพื่ออะไร ? ใครจะได้ประโยชน์จากการทำบล็อกเชน ? ต้นทุนสำหรับการทำระบบบล็อกเชนมีมูลค่าเท่าไร ? และถ้าหากมีความเสียหายเกิดขึ้น ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ?
“ประชาชนก็ เหมือนจำนำข้าว ก็ได้เท่านั้น แต่ไอ้ที่ติดคุกเพราะมันมีคนได้มากกว่า มาคราวนี้ก็เฉกเช่นเดียวกัน มันก็เหมือนเรื่องรถไฟฟ้า คุณต้องคิดจบมาแล้ว คุณไม่รู้ว่าทุกสายเค้ามีภูมิหลังกันมายังไง วันนี้ก็เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าวันนี้ยังตอบไม่ได้ แล้วความจริงผมรู้ว่าเค้าตอบได้ แต่เค้าไม่กล้าตอบว่าเอาเงินมาจากไหน” นายจตุพรกล่าว
สำหรับแนวทางการกู้รัฐวิสาหกิจนั้น นายจตุพรกล่าวว่า ก็เป็นการกู้มาจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และการยืมแบบไม่มีดอกเบี้ยนั้นทำไม่ได้ เนื่องจากไม่ใช่การทดรองจ่าย ด้านทนายนกเขา-นิติธร ล้ำเหลือ กล่าวเสริมว่า เงินทุนของแต่ละกองทุนนั้น มีการลงทุนไขว้กัน ผูกโยงเข้าด้วยกันอยู่ ดังนั้นถ้าหากมีกองทุนหนึ่งใดล้มลงไป จะทำให้กองทุนที่เหลือล้มตามไปกันหมด
สำหรับการเกลี่ยงบประมาณ การลดงบประมาณนั้น นายจตุพรกล่าวว่าไม่น่าจะทำได้จริง เนื่องจากตัวงบประมาณนั้นมีการตั้งงบรายจ่ายเอาไว้สูง ทำงบขาดดุล และเป็นหนี้งบประมาณ ที่สำคัญคือฐานของงบประมาณไทยมาจากเงินกู้ทั้งนั้น ถ้าเกลี่ยได้ 2 แสนล้านก็เท่ากับเงินกู้ผ่านงบรายจ่ายของประเทศนั่นเอง
“ประเทศเรานี่ พอกหางหมูตลอด เพราะฉะนั้นถ้าอธิบาย(ว่า) เกลี่ยจากงบประมาณ มันก็มาจากฐานของเงินกู้นั่นแหละ ดูเสมือนหนึ่งว่ารัฐไม่ได้กู้ มันก็กู้ผ่านดุลงบประมาณอยู่แล้ว” นายจตุพรกล่าว
นายจตุพรวกกลับมาพูดถึงเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ตั้งคำถามว่าทำไมต้องไปทำบล็อกเชนใหม่ พร้อมตั้งคำถามว่า “ทำไมต้องไปจ่ายค่าโง่แลกไปกลับ ? หรือว่าไม่(ต้อง)จ่าย ? ไม่มีค่าแลก? ค่าทำบล็อกเชนเนี่ย เท่าไรก่อน? ใครเป็นคนทำ ใครเป็นคนได้ทำ ?”
อย่างไรก็ดี นายจตุพรวิเคราะห์ว่านายเศรษฐา และพรรคเพื่อไทยไม่ได้สู้ในนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตอย่างจริงจัง เพียงแต่งตัวให้ดูดีเท่านั้น ถ้าพรรคเพื่อไทยเอาจริง สามารถใช้อำนาจผลักดันให้โครงการเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องรออะไร
“ถ้าแน่จริง เอาเงินเดือนนายก ฯ เงินเดือนรัฐมนตรี ให้เป็นดิจิทัลวอลเล็ตก่อน ส.ส. สว. ข้าราชการทุกคน เป็นดิจิทัล วอลเล็ต เอาดูความสำเร็จก่อน” นายจตุพรกล่าว
นายจตุพรกล่าวว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยเอาจริง สามารถใช้อำนาจผลักดันให้โครงการเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องรออะไร ตอนหาเสียงบอกรีบเร่ง ตอนกำลังจัดตั้งรัฐบาลบอกบ้านเมืองรอไม่ได้ แต่พอมาเป็นรัฐบาล บอกให้รอปีหน้า ซึ่งไม่มีเหตุผล แต่นายจตุพรยังกล่าวอีกว่า “ผมรู้ว่าเขามีเหตุผลที่มันซ่อนเอาไว้”