อิสราเอลอ้างเหตุที่ต้อง โจมตีคลังอาวุธในเขตซีเรีย โดยระบุว่าเพื่อไม่ให้อาวุธร้ายแรงไปตกอยู่ในมือศัตรู

กิเดียน ซาอาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล ได้กล่าวอ้างกับนักข่าวเมื่อวันจันทร์ (9 ธ.ค.) ว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) ได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศต่อคลังอาวุธเคมีและขีปนาวุธพิสัยไกลของซีเรีย เพื่อป้องกันไม่ให้อาวุธร้ายแรงตกไปอยู่ในมือของศัตรู 

“สิ่งเดียวที่เราสนใจคือความปลอดภัยของพลเมืองชาวอิสราเอลและอิสราเอล” ซาอาร์ กล่าว

แม้ว่าจะไม่ได้เปิดเผยเวลาและสถานที่ของการโจมตี แต่นักข่าวเอพีรายงานการโจมตีทางอากาศใกล้กับสนามบินทหารเมซเซห์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงดามัสกัส เมื่อวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) โดยคลังอาวุธดังกล่าวมักตกเป็นเป้าหมายการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนว่าใครเป็นผู้โจมตีครั้งล่าสุดนี้

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อิสราเอลได้โจมตีทางอากาศในซีเรียหลายร้อยครั้ง โดยมุ่งเป้าไปที่สถานที่ที่อิสราเอลอ้างว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายฮิซบอลเลาะห์ 

เมื่อวันจันทร์ (9 ธ.ค.) อิสราเอล แคทซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ได้สั่งการให้กองทัพอิสราเอลสร้างพื้นที่ปลอดภัยที่ปราศจาก “อาวุธเชิงยุทธศาสตร์” นอกเขตกันชนกับซีเรีย

คัทซ์ กล่าวว่า เขาได้สั่งให้กองทัพอิสราเอลเข้าควบคุมเต็มรูปแบบในพื้นที่บริเวณที่ราบสูงโกลัน ซึ่งเคยเป็นเขตกันชนระหว่างอิสราเอลกับซีเรียมาตั้งแต่มีการลงนามข้อตกลงในปี 1974 หลังสงครามยม-คิปปูร์ (Yom Kippur)

รัฐมนตรีกลาโหมยังได้สั่งให้ทำลายอาวุธเชิงยุทธศาสตร์ของรัฐบาลอัสซาดและกองกำลังติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน เพื่อป้องกันไม่ให้อาวุธเหล่านี้ตกไปอยู่ในมือของกองกำลังก่อการร้าย 

โดยอาวุธเหล่านี้ได้แก่ ขีปนาวุธนำวิถีพื้นสู่อากาศ ระบบป้องกันภัยทางอากาศ ขีปนาวุธนำวิถีจากพื้นสู่พื้น ขีปนาวุธร่อน และชีปนาวุธพิสัยไกล รวมถึงได้สั่งการให้กองทัพอิสราเอลป้องกันและขัดขวางการกลับมาเปิดเส้นทางการลักลอบขนอาวุธจากอิหร่านไปยังเลบานอนผ่านซีเรีย ตามจุดผ่านแดนต่างๆ