
ชูวิทย์ VS สันธนะ สงครามผรุสวาท หน้าพรรคก้าวไกล ชูวิทย์อ้าง ‘ผู้ใหญ่ในพรรคเขาเชิญผมมา’ สันธนะลั่น ‘ผมรับปากผู้ใหญ่พรรคเอาไว้’
เมื่อวานนี้ (15 พ.ค.) เวลา 14:30 น. คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ได้เดินทางมายังพรรคก้าวไกล เพื่อร่วมแสดงความยินดีกับชัยชนะของพรรค แต่เมื่อเดินทางมาถึง พบคุณสันธนะ ประยูรรัตน์ ทั้งคู่จึงเกิดการปะทะกัน ต่างพูดคำผรุสวาทใส่กันอย่างดุเดือด ท่ามกลางความวุ่นวายของเจ้าหน้าที่พรรค และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาคอยห้ามปราบ
หลังจากที่ทั้งคู่แยกกัน คุณชูวิทย์ได้เข้าพบนายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล โดยกล่าวว่า คนที่เลือกพรรคก้าวไกล เห็นหน้าคุณสันธนะแล้วเบือนหน้าหนี และอ้างว่าไม่มีใครรู้จักนายสันธนะดีเท่าผม
“บรรดาสัมภเวสีทุกวันนี้ มุ่งหน้าท่องคาถา ‘ก้าวไกล นะโมตัสสะ ๆ ๆ’ วันนี้มากัน มานั่งเฝ้าคุณ คุณเชื่อผมนะ มานั่งบอกว่าจะดูแลให้คุณ จะมาเป็น Security จะมาเป็นการ์ด แต่พวกนี้มาหากินชัด ๆ ผมจึงจำเป็นจะต้องเตือน
เดี๋ยวบอกก่อนนะว่าผู้ใหญ่ในพรรคก้าวไกลเขาเชิญผม ผมไม่ได้มาเอง ผมกะว่าจะไปพบพรรคก้าวไกลที่อนุสาวรีย์ชัย แต่ปรากฏว่าจมูกผมมันไว ไอ้เรื่องผีเน่า ๆ ผีผุ ๆ ไอ้พวกที่ทำตัวเห็นแล้วสยอง มันต้องเจอกับผม
คุณเชื่อผม ไอ้พวกคนอย่างนี้นะ มันจะมานั่งเอาลูกน้องใส่เสื้อพรรคก้าวไกล แล้วเที่ยวไปบอกใครต่อใครว่าเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล แล้วก็ไปหาแดก ไปหาเงิน ไปหาเศษหาเลย เสียชื่อ!
พรรคก้าวไกลเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ เป็นความฝันของคนรุ่นใหม่ ผิดหวังไม่ได้ครับ จะเอาคนรุ่นเก่า จะเอาพวกตำรวจถูกไล่ออกจากราชการ แล้วเอามาทำตัวเหมือนกับ ‘โอ้โห! ผมเป็นสมาชิกนะ ผมจะมาช่วยพรรคก้าวไกล’
คุณโรมครับ คุณโรมรีบไปหารือเลยนะครับ วันนี้เนี่ย คุณเหมือนดาวจรัสแสง พรรคก้าวไกลเป็นดาวจรัสแสง แล้วถ้ามีพวกดาวดับ ดาวแปดเปื้อน พวกนี้มันไม่ใช่ดาวนะครับ มันเป็นดาวในนรก มาผุดมาเกิด ผมจำเป็นที่จะต้องออกมาเตือนด้วยความหวังดี”
ด้านคุณรังสิมันต์ตอบว่า “ผมอาจจะไม่ได้มีอำนาจในการถอดชื่อใครได้ แต่เบื้องต้นจะคุยกับพรรคก้าวไกล” แต่คุณชูวิทย์แทรกด้วยการยื่นผ้ายันต์จากวัดเล่งเน่ยี่ ให้คุณรังสิมันต์ 1 ผืน และให้พรรค 1 ผืนเอาไว้ใช้ไล่ภูตผีปีศาจ พร้อมบอกว่าจากนี้พรรคก้าวไกลจะมีภูตผีปีศาจเข้ามาในพรรค เพื่อตีสนิทกับทั้งคุณรังสิมันต์ และใกล้ชิด จะใช้วิชามาร
อย่างไรก็ดี นายรังสิมันต์ยังยืนยันว่าไม่มีอำนาจในการพิจารณาถอดถอน แต่จะส่งเรื่องให้ อีกทั้งยังยอคุณชูวิทย์ว่า นับตั้งแต่ที่พรรคก้าวไกลได้รับคะแนนเสียงจากการเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 คุณชูวิทย์เป็นคนแรกที่เข้ามาร้องเรียน
จากนั้นคุณชูวิทย์เดินเข้าไปบริเวณเก้าอี้ที่คุณสันธนะเคยนั่ง เพื่อดมกลิ่นหาว่าคุณสันธนะเคยนั่งเก้าอี้ตัวไหน ก่อนจะประกาศว่า “เมื่อไรที่คุณสันธนะเข้ามา ผมก็จะมา”
เมื่อคุณชูวิทย์ กำลังจะเดินทางกลับ คุณสันธนะที่ได้ทราบข่าวว่าคุณชูวิทย์กลับมา ก็เดินทางกลับเข้ามาที่พรรคใหม่อีกครั้ง และได้พบกัน ทั้งคู่เปิดสงครามคารมกันอีกครั้ง แต่เบากว่าครั้งแรก เนื่องจากมีสื่อมวลชนคอยห้ามปราม อีกทั้งคุณรังสิมันต์ยังยกมือไหว้ขอร้องทั้งคู่ ขอร้องไม่ให้ทะเลาะกัน
คุณสันธนะประกาศว่า “โทรหา ผบ.ตร. รับฟืด! ไอ้เด่น เดี๋ยวมึงโดนพวกมึง ทุกคน” ก่อนที่จะหันไปหาคุณรังสิมันต์ กล่าวว่า “เข้าใจมั้ย แล้วสีไหนใช้มันมา มันกลัวผมจะมีบทบาท ผมไม่ได้มาอะไรเลย แล้วพรรคก็รู้ว่าไม่ใช่ผมแน่ ที่พอเลือกตั้งเสร็จแล้วมา ไม่ใช่
ก่อนหน้านั้นผมรับปากอะไรกับพรรคไว้ ก็ผมรู้แล้วสถานการณ์มันจะต้องเป็นแบบนี้ แล้วถ้าเหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นก่อนหย่อนบัตรลงหีบเลือกตั้งละ
ผมถึงรู้ ผมถึงไม่เคยเจอน้องๆ เนี่ย เดือนกว่า ผมปิดปากปิดคำ เสื้อที่พรรคนะ เต็มตู้เต็มบ้านผมไปหมดที่บ้าน ผมไม่เคยใส่สักตัว”
สุดท้ายทั้งคู่ยอมแยกย้ายกลับ แต่เมื่อคุณสันธนะขึ้นรถ ปรากฏแก้วกาแฟปริศนาบินใส่รถยนต์ของคุณสันธนะ ซึ่งคุณชูวิทย์ตอบในภายหลังว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้