
อินโดนีเซียเร่ง พัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ เพื่อตอบสนองความต้องการพึ่งพาตนเองด้านพลังงาน
รัชมัต ปัมบูดี (Rachmat Pambudy) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนการพัฒนาแห่งชาติ (PPN) อินโดนีเซีย กล่าวในการประชุมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ เมื่อวันเสาร์ (8 ก.พ.) ว่าอินโดนีเซียกำลังดำเนินการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ด้วยจุดประสงค์เพียงอย่างเดียวคือ เพื่อสนับสนุนการพึ่งพาตนเองด้านพลังงาน โดยไม่มีเจตนาที่จะใช้เป็นอาวุธ
“เราจำเป็นต้องมีขั้นตอนที่เป็นรูปธรรมเพื่อให้แน่ใจว่าการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์นี้ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จทางเทคนิคเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อประชาชนชาวอินโดนีเซียด้วย” ปัมบูดี กล่าว
ทั้งนี้ อินโดนีเซียตั้งเป้าที่จะบรรลุเป้าหมายการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ (NZE) ภายในปี 2060 และกำลังเร่งพัฒนาแหล่งพลังงานใหม่เพื่อทดแทนพลังงานจากฟอสซิล
ปัมบูดี กล่าวว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์มีข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์หลายประการ รวมถึงความสามารถในการดำเนินการอย่างต่อเนื่องและใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์กำลังขนาดเล็กแบบโมดูลาร์ (SMR) ได้รับการพิจารณาให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับอินโดนีเซียเนื่องจากมีความยืดหยุ่น ปลอดภัย และคุ้มทุน
“ด้วยเศรษฐกิจที่คาดการณ์ว่าจะเติบโต 7-8% การพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต้องเตรียมพร้อมตั้งแต่ตอนนี้เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ภายในปี 2030-2035” “มีการดำเนินการเพื่อจัดเตรียมข้อมูลทางเทคนิคและเศรษฐกิจเพื่อให้แน่ใจว่าการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ดำเนินไปอย่างมืออาชีพและมีความรับผิดชอบ” ปัมบูดี กล่าว
การพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในอินโดนีเซียคาดว่าจะสนับสนุนการพัฒนาพลังงานอย่างยั่งยืนและเสริมสร้างตำแหน่งของอินโดนีเซียในโครงการพลังงานระดับโลก