News“สิ่งที่เลวร้ายที่สุดยังมาไม่ถึง” IMF เตือนวิกฤตเศรษฐกิจโลกยังอีกยาว หลังจากนี้ทั่วโลกจะเจอภาวะเศรษฐกิจถดถอย

“สิ่งที่เลวร้ายที่สุดยังมาไม่ถึง” IMF เตือนวิกฤตเศรษฐกิจโลกยังอีกยาว หลังจากนี้ทั่วโลกจะเจอภาวะเศรษฐกิจถดถอย

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกอีกครั้ง พร้อมเตือนว่า “สิ่งที่เลวร้ายที่สุดยังมาไม่ถึง และในปี 2023 คนจำนวนมากจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย”

 

วันที่ 10 ต.ค. 2022 IMF ประกาศลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกปี 2023 ลงเหลือเพียง 2.7% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.9% เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีความเป็นไปได้ 25% ว่าจะลดลงต่ำกว่า 2% ด้วย ซึ่งเป็นผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน อัตราเงินเฟ้อที่สูง และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

 

“เศรษฐกิจโลกกว่า 1 ใน 3 จะหดตัวในปีนี้หรือปีหน้า ในขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจของ 3 ประเทศเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และจีน จะยังคงชะลอตัว” ปิแอร์-โอลิวิเยร์ กูรินชา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ IMF กล่าว

 

IMF ระบุว่า รายงานดังกล่าว เป็นการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอที่สุดเป็นอันดับ 3 นับตั้งแต่ปี 2001 รองจากวิกฤต Subprime ในปี 2008 และช่วงการแพร่ระบาดอย่างหนักของโควิด-19 ทั้งนี้ การเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกเคยแตะระดับต่ำกว่า 2% เพียง 5 ครั้งตั้งแต่ปี 1970

 

ในขณะเดียวกัน IMF ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในปีนี้ และปีหน้าสู่ระดับ 1.6% และ 1% ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลกระทบจากการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ในขณะที่จีนถูกปรับลงเป็น 3.2% และ 4.4% ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลกระทบจากนโยบาย zero covid-19 และวิกฤตอสังหาฯ

 

IMF คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกจะพุ่งสูงสุดในช่วงปลายปีนี้ ที่ 8.8% จากนั้นจะชะลอตัวลงสู่ระดับ 6.5% ในปี 2023 และ 4.1% ภายในปี 2024

 

ปิแอร์-โอลิวิเยร์ กูรินชา เตือนว่า ธนาคารกลางทั่วโลกกำลังมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูเสถียรภาพด้านราคา (ควบคุมเงินเฟ้อ) อย่างไรก็ตาม การปรับเพิ่มดอกเบี้ยนโยบายยังเพิ่มความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ โดยหากธนาคารกลางปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายรุนแรงหรือเร็วเกินไป ก็อาจทำให้ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำรุนแรงขึ้น ในขณะที่หากปรับอ่อนหรือช้าเกินไป ก็จะไม่สามารถควบคุมเงินเฟ้อได้