News“ถ้าพรรคเพื่อไทยยืนยันว่าเป็นพรรคที่ทำงานเพื่อประชาชน อะไรที่เป็นผลประโยชน์ของประเทศก็ต้องร่วมกันสนับสนุน ถูกมั้ยครับ แค่นั้นเอง”

“ถ้าพรรคเพื่อไทยยืนยันว่าเป็นพรรคที่ทำงานเพื่อประชาชน อะไรที่เป็นผลประโยชน์ของประเทศก็ต้องร่วมกันสนับสนุน ถูกมั้ยครับ แค่นั้นเอง”

เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม และเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีที่เขาแสดงความสนิทสนมกับ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทยในช่วงก่อนปีใหม่ ซึ่งเป็นสาเหตุให้กลุ่มผู้ให้การสนับสนุน รทสช. อกหัก 

 

ว่าถ้าตนเองทำให้อกหักก็ต้องขออภัย แต่ยืนยันว่าจุดยืนของตนไม่เคยเปลี่ยน และทุกเรื่องที่ตนทำนั้น ทำด้วยเหตุและผล และคิดถึงส่วนรวมเป็นที่ตั้งอยู่ตลอดเวลา เพื่อรักษาจุดยืนและผลประโยชน์ของประเทศ

 

ส่วนที่มาของเหตุการณ์ที่ตนได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นเพราะว่าโตโยต้าตั้งเงื่อนไขว่าจะเพิ่มเงินลงทุนในประเทศไทยจาก 5 หมื่นล้าน เป็นแสนล้าน ถ้าหากว่าตนเองพาประธานบริษัทโตโยต้าไปเข้าพบนายกรัฐมนตรีได้ ตนเองจึงพาไปพบนายกฯ ซึ่งเป็นที่มาของภาพในวันนั้น

 

พอเดินออกมาเสร็จ ผมก็ต้องขอบคุณท่านนายกฯ ว่าอุตส่าห์สละเวลามาเจอ แล้วเรื่องนี้มันสำคัญกับมาก เพราะนี่คืออนาคตอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย เอกนัฏกล่าว

 

และกล่าวว่าการดำเนินการของตนในครั้งนี้ทำให้โตโยต้าตัดสินใจไม่ย้ายฐานการผลิตออกไปจากประเทศไทย ในขณะที่มาสด้ามีกำหนดการจะมาพบกับตนเองในเดือนหน้า ซึ่งนี่เป็นสัญญาณที่ดี และเป็นเรื่องที่จำเป็น

 

เมื่อถามถึงฉายา รวมเพื่อไทยสร้างชาติ ที่สื่อมวลชนตั้งให้ เอกนัฏกล่าวว่าตนเองไม่สนใจฉายาเหล่านั้น และการถูกตั้งฉายานั้นถือเป็นส่วนหนึ่งของอาชีพนักการเมือง ซึ่งการทำอาชีพนี้นั้นจะต้องมีความอดทน อีกทั้งก่อนหน้านี้ ในสมัยเดินขบวน (เหตุการณ์ประท้วงของกลุ่ม กปปส. ในช่วงปี 2557) ตนเองก็โดนมาทั้งระเบิดและกระสุน อีกทั้งยังโดนด่าหนักกว่านี้ แต่ตนเองก็อดทนทำงานต่อไป

 

ผมคิดว่าทั้งหมดนี้ ทั้งท่านพลเอกประยุทธ์ (จันทร์โอชา อดีตนายกฯ และองคมนตรี) ท่านพีระพันธ์ (สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ, รมว. พลังงาน และหัวหน้าพรรค รทสช.) เนี่ย ก็สอนผมในทางการเมืองเยอะ ให้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกอย่าง แล้ววันหนึ่งถ้าเราทำงานด้วยความมีจุดยืนที่ชัดเจน ทำงานด้วยความตั้งใจ ผมเข้าใจว่าวันหนึ่งคนจะเข้าใจเราเอง

 

เมื่อถามถึงท่าทีของพรรคเพื่อไทย ที่ดูเหมือนว่าจะขับ รทสช. ออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เอกนัฏกล่าวว่า ผมไม่ได้ทำงาน หรือมาอยู่ตรงนี้เพื่อให้เขารักเรา ผมมีประกาศจุดยืน ท่านพลเอกประยุทธ์ตอนนี้ท่านอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ท่านพีระพันธุ์ในฐานะหัวหน้าพรรค ผมในฐานะเลขาธิการพรรค ประกาศจุดยืน เราชัดเจนว่าเหตุผลที่เราเข้าร่วมรัฐบาลเพื่ออะไร

 

เพื่อยันเรื่อง (การแก้ไขมาตรา) 112 เอาไว้ เพื่อการแก้รัฐธรรมนูญต้องไม่รวมหมวด 1 หมวด 2 เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ แล้วตั้งแต่เข้ามาเนี่ย เราก็ทำงานสร้างผลงานที่เป็นประโยชน์ให้กับประเทศหลายเรื่อง เพราะฉะนั้นเนี่ย โทษนะครับ จะพอใจ ไม่พอใจ รัก ไม่รักไม่ใช่ปัญหา เอกนัฏกล่าว

 

และกล่าวว่าตนเองไม่ได้สนใจว่าจะถูกขับออกจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ แต่ตราบใดที่ตนเองยังอยู่ ก็ต้องทำผลงานให้ดีที่สุด แล้วรักษาจุดยืนของเราเอาไว้ ส่วนเรื่องอื่นนั้น อย่าไปคิดมากครับ 

 

เอกนัฏกล่าวว่าตนเองกับพีระพันธุ์หารือกันบ่อย และต่างก็รู้สึกเบื่อหน่ายกับวิธีการทำการเมืองแบบเก่า ๆ ที่เอาแต่ด่ากันไปมาอย่างสาดเสียเทเสีย และเรามีความตั้งใจว่า รทสช. จะไม่ทำตัวเช่นนั้น แต่จะมุ่งทำงานสร้างผลงานด้วยเหตุและผล และมีความชัดเจนในจุดยืน

 

เมื่อถามว่าพีระพันธุ์ไปขวางทาง ทำลายผลประโยชน์ของนายทุนจริงหรือไม่ เอกนัฏกล่าวว่าทั้งตนเองและพีระพันธุ์ทำงานโดยยึดเอาผลประโยชน์ชาติเป็นหลัก ถ้าหากใครเข้ามาขวางนั้น ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ และตนเองและพีระพันธุ์ต่างก็ไม่ได้ทำงานเพื่อที่จะได้เป็นรัฐมนตรีไปตลอดชีวิต และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็จะรักษาศรัทธาของประชาชนเอาไว้ และยึดเอาผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง

 

แม้กระทั่งพรรคเพื่อไทยเอง ถ้าเขายืนยันว่าเป็นพรรคที่ทำงานเพื่อประชาชน อะไรที่เป็นผลประโยชน์ของประเทศก็ต้องร่วมกันสนับสนุน ถูกมั้ยครับ แค่นั้นเอง เอกนัฏกล่าว 

 

และกล่าวว่าการที่พรรค รทสช. ออกประกาศปลดล็อกโซลาร์รูฟท็อป หรือการที่ไปไล่ปิดโรงงานเถื่อนที่มีผลประโยชน์มหาศาลนั้น ก็ไม่ได้สนใจใครทั้งนั้น ตนเองไม่เกรงกลัวผู้มีอิทธิพลเหล่านี้

 

สำหรับการร่วมรัฐบาลของ รทสช. นั้น จนถึงวันนี้ ข้อตกลงในการจัดตั้งรัฐบาลทุกเรื่องนั้น ยังคงเป็นไปตามนั้นอยู่ ส่วนที่เหลือนอกจากนั้น ต่างคนต่างก็ทำประโยชน์ให้กับประเทศ ต่างคนต่างก็คิด ส่วนใครจะไปขวางทางใครนั้น ถือเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้



ส่วนเรื่องที่มีข่าวว่าเกิดการแบ่งแยกในพรรคเป็นสายหัวหน้าและสายเลขาฯ นั้น เอกนัฏกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก เรื่องนี้มีผู้ที่ไม่หวังดีพยายามสร้างความแตกแยกให้พรรคมานานแล้ว แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะทำลายความสัมพันธ์นี้

 

เมื่อว่าถามว่าการรวมตัวกันของเอกนัฏ และพีระพันธุ์นั้น ไปขวางทางนายทุนพรรคหรือไม่ เอกนัฏยืนยันว่า รทสช. ไม่เคยมีนายทุน แต่พรรคอยู่ได้ด้วยเงินสนับสนุนของประชาชน 




เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า