
ครบรอบ 1 ปี สงครามรัสเซีย-ยูเครน แลนสไลด์ที่ดูจะเริ่มลอยห่างไกลออกไป และไพ่ตายสุดท้ายของทักษิณ ชินวัตร
ทั่วทั้งโลกซึ่งรวมถึงประเทศไทยต่างใจจดใจจ่อรอคอยดูว่าวันที่ 24 กุมภาพันธ์ จะเกิดเหตุการณ์ที่จุดชนวนนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 หรือไม่ เนื่องจากเป็นวันครบรอบ 1 ปีที่รัสเซียใช้กองกำลังพิเศษบุกเข้าไปในดินแดนของยูเครน
ถ้าภาษาชาวบ้านเขาก็เรียกว่าเปิดฉากทำสงคราม แต่รัสเซียบอกว่าไม่ใช่การทำสงคราม แต่เป็น “การปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” ที่ผลของการปะทะกันดูแล้วเกิดความเสียหายรุนแรงมากกว่าบางสงครามที่เคยเกิดขึ้น
มีทหาร ประชาชนของทั้ง 2 ฝ่ายเสียชีวิตจำนวนมาก เกิดการอพยพออกนอกประเทศทั้งคนยูเครนที่หนีตายจากภัยสู้รบ หรือคนรัสเซียที่หนีการถูกเกณฑ์เป็นทหาร ทรัพย์สินของยูเครนในหลายเมืองถูกทำลายเสียหายย่อยยับ โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ถูกถล่มไม่เหลือชิ้นดี ไม่รู้ว่าอีก 10 ปี หรือ 20 ปี จะกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่
———-
สงครามระหว่างค่ายความคิด
———-
ถ้าสู้กันลำพังระหว่างรัสเซียกับยูเครนคงรู้ผลแพ้ชนะกันไปนานแล้ว ไม่ต้องเดาว่าใครจะเป็นฝ่ายได้รับชัยเพราะศักยภาพทางทหารของรัสเซียมีเหนือกว่าทุกด้าน
แต่การต่อสู้กันครั้งนี้เป็นเหมือนการต่อสู้กันระหว่าง 2 ค่ายแนวคิด คือ ค่ายเสรีประชาธิปไตยที่นำโดยสหรัฐ และกลุ่มนาโต้ มียูเครนเป็นตัวแทน กับรัสเซียที่นักวิชาการบางคนเรียกว่าเป็นค่ายประชาธิปไตยองค์อธิปัตย์ หรือประชาธิปไตยแบบรวมศูนย์อำนาจ
ดังนั้นเมื่อถือเป็นการต่อสู้กันของค่ายความคิด ย่อมต้องมีเรื่องของศักดิ์ศรีเข้ามาค้ำคอ ยอมตายดีกว่าอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรี
เราจึงเห็นฝ่ายสหรัฐและกลุ่มนาโต้ทุ่มสรรพกำลังทางทหาร ไม่ว่าจะเป็นอาวุธเบา อาวุธหนัก อาวุธไฮเทค งบประมาณจำนวนมหาศาลให้ยูเครนเป็นตัวแทนไปต่อสู้แทน
ขาดแต่เพียงการส่งกำลังทหารไปช่วยอย่างเป็นทางการเท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นการยกระดับของสงครามขึ้นมาทันที ซึ่งหลีกไม่พ้นที่จะกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3
ยิ่งช่วงครบรอบ 1 ปี ได้เห็นการเคลื่อนไหวที่แปลกๆ ของผู้นำประเทศสมาชิกนาโต้และสหรัฐรวมถึงรัฐมนตรีด้านความมั่นคงทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นกระทรวงกลาโหม กระทรวงต่างประเทศ ผอ.ซีไอเอ. ทยอยเดินทางไปเยี่ยมเยียน ให้กำลังใจ ให้คำมั่นต่อผู้นำยูเครนว่าจะสนับสนุนการต่อสู้อย่างเต็มที่ไม่ทิ้งกัน
จะเพิ่มอาวุธทันสมัยที่ไม่ใช่เชิงป้องกันอย่างเดียว แต่จะเป็นอาวุธเชิงรุกกระทำต่อรัสเซียด้วย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินรบ ขีปนาวุธพิสัยไกล
รูปการณ์เหล่านี้สุ่มเสี่ยงเหลือเกินที่จะเกิดเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้ทุกนาที ที่น่าตกใจคือ การที่ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านคนสำคัญของสหรัฐ เดินทางไปถึงเมืองหลวงยูเครนเพื่อประกาศสนับสนุนผู้นำยูเครนให้ยืนหยัดต่อสู้กับรัสเซียอีกด้วย สะท้อนให้เห็นว่าฝ่ายการเมืองสหรัฐไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน พร้อมต่อสู้เพื่อพิทักษ์ระบอบเสรีประชาธิปไตยแบบตะวันตกอย่างเต็มที่
รัสเซียก็ไม่เบา ประกาศสู้ไม่ถอย ประกาศเตรียมระดมทหารเข้าประจำการเพิ่มอีก 300,000 นาย เข้าประชิดยูเครน ตั้งกองกำลังร่วมและซ้อมรบกับเบลารุส ซื้อโดรนเพิ่มจากอิหร่าน ที่สำคัญคือยกเลิกสนธิสัญญานิวสตาร์ทที่ทำกับสหรัฐก่อนครบรอบ 1 ปีการบุกยูเครน
สัญญานี้ระบุให้ทั้ง 2 ฝ่ายจะมีหัวรบนิวเคลียร์อยู่ในครอบครองได้ไม่เกินฝ่ายละ 1,550 หัวรบ หมายความว่าหลังจากนี้แต่ละฝ่ายจะมีอิสระในการผลิต ทดลองหัวรบนิวเคลียร์ได้
สงครามจึงอาจพัฒนาไปสู่การใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ด้วย ถึงตอนนั้นไม่อยากนึกถึงผลกระทบต่อโลกและความสูญเสียที่เกิดขึ้น แล้วไทยจะเตรียมตั้งรับอย่างไร
———-
รัสเซียกับสงครามข้อมูลข่าวสาร
———-
มีคำถามที่หลายคนสงสัยว่า ผ่านมาตั้ง 1 ปี คนรัสเซียรู้สึกอย่างไร สนับสนุนคุณปูติน หรือไม่สนับสนุน ซึ่งก็ตอบได้ว่ามีทั้ง 2 อย่าง มีทั้งที่ออกมาแสดงกิจกรรมสนับสนุน และคัดค้าน
คนที่แสดงความเห็นคัดค้านรุนแรงก็จะถูกใช้กฎหมายเข้ามาดำเนินคดี หลายคนต้องหนีออกนอกประเทศไปแสดงความเห็นคัดค้านข้างนอกแทน และคงมีอีกมากที่ไม่สนับสนุนการสู้รบแต่ไม่กล้าแสดงออก
แต่ที่อยากชวนให้คิดคือ พวกที่สนับสนุนคุณปูตินเขามองอย่างไร คนเหล่านี้มองว่า “ยูเครนเคยเป็นดินแดนของจักรวรรดิรัสเซียมาก่อน คนรัสเซียที่อาศัยอยู่ในยูเครนถูกกดขี่ ยูเครนเป็นภัยคุกคามต่อรัสเซีย คนยูเครนเป็นพวกนาซีมีแต่ความโหดร้าย สหรัฐและชาติตะวันตกคือศัตรูที่อยู่เบื้องหลังยูเครน”
ชุดความคิดเหล่านี้ถูกปูตินจัดทำขึ้นเมื่อ 8 ปีที่แล้วนับตั้งแต่รัสเซียเข้าผนวกแคว้นไครเมียเป็นดินแดนของตน ด้วยวิธีการโฆษณาชวนเชื่อในสื่อรัสเซียทุกช่องทางตลอดเวลา ใช้มาตรการควบคุมสื่อเสรีและสื่อตะวันตกไม่ให้ออกข่าวที่นอกเหนือจากนี้
ชุดความคิดนี้ถูกฉายซ้ำ ย้ำไปมาจนกลายเป็นความเชื่อ ฝังอยู่ในหัว ติดอยู่ในความคิด ระยะเวลา 8 ปี ทำให้คนเหล่านี้กลายเป็นกลุ่มที่สนับสนุนการกระทำของคุณปูตินไปโดยปริยาย
———-
ก้าวไกลกับการปลูกฝังชุดความคิด
———-
กลับมาที่ไทยบ้าง ตอนแรกไม่คิดว่าจะมีวันครบรอบปีเหตุการณ์สำคัญอะไร แต่พอเห็นข้อเขียนของคุณพิธา ฉายาผู้จับเสือมือเปล่า หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ระบุถึงวันครบรอบ 3 ปีที่พรรคอนาคตใหม่ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรค เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 63 เนื่องเพราะไปรับเงินจากแหล่งที่มาไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ก็เลยตามอ่านสิ่งที่อัดอั้นอยู่ภายในใจของคุณพิธาตลอดระยะเวลา 3 ปีมานี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการทำงานของพรรคก้าวไกลพอสมควร
สะดุดใจกับวลีที่ว่า “การเมืองคือความเชื่อ” “พูดอะไร ไม่เท่ากับใครเป็นคนพูด” “อะไรที่เป็นความเชื่อ จะกลายเป็นความจริงขึ้นมา”
ทำให้ถึงบางอ้อว่า แนวทางการทำงานทางการเมืองของพรรคนี้ก็ไม่แตกต่างจากการใช้คนที่ถูกสร้างภาพลักษณ์ว่าเป็นคนรุ่นใหม่ที่ดูเหมือนมีอนาคต ออกมาโฆษณาชวนเชื่อซ้ำๆ ด้วยวลีที่ถูกสร้างขึ้นมา เช่น ล้มล้างเผด็จการ ยกเลิก ม.112 สิทธิเท่าเทียม เปลี่ยนระบอบ เปลี่ยนประเทศ ผ่านสื่อที่ตัวเองควบคุมอยู่ให้ฝังอยู่ในหัวของกลุ่มที่เป็นเป้าหมายคือเยาวชน
จนกลายเป็นความเชื่อเพื่อจะสร้างการเมืองใหม่ให้เป็นจริงตามที่กลุ่ม “โปลิตบูโร” ไม่กี่คนของพรรคคอยกำกับทิศทางไว้ ผลสำเร็จอาจจะไม่เกิดวันนี้ ปีหน้า แต่อาจเกิดขึ้นใน 8 ปีข้างหน้า เหมือนอย่างที่คุณปูตินทำกับแคว้นไครเมียและยูเครน
ซึ่งถึงตอนนั้นคนไทยจะเกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แตกแยกทางความคิดกันมากน้อยแค่ไหน บ้านเมืองยังคงสงบสุขเหมือนปัจจุบันนี้หรือเปล่า หรือประเทศจะถูกเปลี่ยน ระบอบจะถูกปรับไปอย่างไร อยากชวนให้ทุกคนช่วยกันคิด
ไม่รู้ยังไง ตอนขึ้นต้นยังเป็นประชาธิปไตยแบบรวมศูนย์อำนาจ เป็นเสรีประชาธิปไตย ตอนท้ายมาลงที่ประเทศไทย ประชาธิปไตยแบบโปลิตบูโรซะอย่างนั้น
———-
แลนสไลด์ที่ดูเริ่มห่างไกลขึ้นทุกที
———-
ก่อนลาจากกันอาทิตย์นี้ ขอแถมเรื่องการเมืองใกล้ตัวอีกสักเรื่อง เพราะเริ่มมีความดุเดือด เผ็ดมันมากขึ้น คุณทักษิณหรือโทนี่มีความฉุนเฉียวมากขึ้น เหตุจากกล่องดวงใจถูกกระทบจากหลายเรื่องราว
ความหวังที่จะแลนด์สไลด์ก็ไม่ง่าย แม้ว่าแนวโน้มจะได้ ส.ส.มากที่สุด แต่ไม่มีใครเชื่อว่าจะได้มากกว่าครึ่งหนึ่งของสภา คุณทักษิณเลยต้องออกมาฟันธงว่าฝ่ายประชาธิปไตยจะได้เสียงถึง 300 กว่า สามารถตั้งรัฐบาลโดยไม่ต้องพึ่งพา ส.ว.หรือ ส.ว. ไม่สามารถโหวตเลือกนายกเป็นคนอื่นได้นอกจากคนที่คุณทักษิณเลือกมาเองแล้วเท่านั้น
ครั้นจะให้ลูกสาวคุณแพทองธาร เป็นนายก ก็เกรงว่าบารมีจะไม่ถึง หากได้เป็นนายกจริงขึ้นมา บารมีจะกล้าแกร่งขนาดพาพ่อกลับเมืองไทยได้หรือไม่ คุณทักษิณเองก็ยังกังขาอยู่
การที่ชนะการเลือกตั้งแล้วต้องประเคนตำแหน่งนายกให้คนอื่นให้พรรคอื่น คุณทักษิณย่อมทนไม่ได้ ทุกวันนี้จึงต้องตะโกนแต่คำว่าแลนด์สไลด์ในทุกเวที ยิ่งนานวัน ยิ่งใกล้เลือกตั้ง หมากที่คุณทักษิณเดินดูว่าไม่สามารถรุกฆาตพรรคใดให้จนกลางกระดาน
ว่าไปแล้วคุณทักษิณอาจจนกลางกระดานเองก็ได้ คราวที่แล้วชนะแต่ไม่ได้เป็นรัฐบาล คราวนี้ประวัติศาสตร์อาจซ้ำรอย
———-
จับตาไพ่ใบเด็ดของทักษิณ
———-
แต่คนอย่างคุณทักษิณมีหรือจะยอมจำนน นิสัยไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมสยบ มั่นใจในความฉลาดหลักแหลม เชื่อมั่นในอำนาจเงินที่จ่ายได้ไม่อั้น บวกอารมณ์แห่งความพยาบาท และเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ทำให้คุณทักษิณได้กลับบ้าน
timing ช่วงนี้ดีที่สุดดีกว่า 10 กว่าปีที่ผ่านมาและหาไม่ได้อีกแล้วแบบนี้
คุณทักษิณจึงต้องคิดให้รอบคอบ วางหมากไว้หลายชั้น ชื่อคุณหญิงพจมานจึงถูกโยนหินถามทางมาเป็นนายก ถูกปล่อยออกมาทดสอบกระแสสังคม เป็นไปได้หรือไม่ ไม่รู้ ต้องรอดูกันเอาเอง
แต่คุณทักษิณสามารถสร้างความแปลกใจอย่างที่สุดให้คนไทยได้เห็นมาแล้ว กรณีนี้เช่นกัน คุณหญิงอาจไม่ชอบ แต่ความที่เป็นคนฉลาด รอบคอบ เด็ดเดี่ยว กล้าต่อรองกับทุกคน ทุกระดับ ตัดสินใจเด็ดขาด รวดเร็ว ที่สำคัญ คือมีบารมีมากพอที่จะพาคุณทักษิณกลับบ้านได้
หมากตานี้น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ไม่ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่คนไทยได้เห็นเป็นกำไรชีวิตแล้วว่าในหัวของคุณทักษิณ คนเป็นนายกต้องอยู่ในแวดวงตระกูลชินวัตรเท่านั้น
ตัวเอง พี่เขย น้องสาว มาถึงคราวนี้อาจได้เห็นทั้งภรรยาและลูกสาว อยู่ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีก็ได้ คุณแพทองธารเธอประกาศแล้ว ยุบสภาวันใด พรรคเพื่อไทยจะเสนอบัญชีรายชื่อนายกทันที คงตกผลึกกันแล้ว รอชม
#TheStrutureColumnist
#รัสเซีย #ยูเครน #แลนด์สไลด์
Here We Go (70) ย้อนอดีตกรณี “กบฎ ITV” ที่มาของกฎหมายห้ามนักการเมืองถือหุ้นสื่อ สะท้อนปัญหาใต้ภูเขาน้ำแข็ง ของกรณีน้องหยก ที่มาจาก “ความต้องการเอาชนะทางการเมืองแบบไม่สนใจใคร”
Here We Go 75 เปิดพฤติกรรมของพรรคก้าวไกล ที่อาจทำให้เพื่อไทยต้องจำใจ ถีบเพื่อนออกจากเรือ
จุดจบของความดื้อรั้น (การเปลี่ยนยุค และความพร้อมในการเปลี่ยนแปลง)
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม