NewsHere We Go 38

Here We Go 38

—————-
ระวังพวกสุดโต่งที่ถูกปั่นจากโซเชียล
—————-

วันเสาร์ที่ผ่านมามีข่าวต่างประเทศเล็กๆ ที่น่าตกใจมากคือ ข่าวที่สามีของนางแนนซี เพโลซี ประธานรัฐสภาสหรัฐฯ ถูกคนร้ายบุกเข้าบ้านที่เมืองซานฟรานซิสโกแล้วใช้ค้อนทุบทั้งที่ศีรษะและร่างกายบาดเจ็บสาหัส ก่อนเข้าทำร้ายได้ตะโกนถามหานางแนนซี แต่ขณะนั้นเธอไม่อยู่ที่บ้าน

 

ภายหลังเกิดเหตุ คนร้ายถูกจับกุมได้ถูกระบุว่า เป็นคนที่เกี่ยวพันกับกลุ่มขวาจัดหัวรุนแรง และหลักฐานที่ได้จากตรวจสอบของตำรวจพบว่าคนร้ายเป็นคนที่หมกมุ่นอยู่กับสื่อโซเชียล สนใจทฤษฎีสมคบคิด ไม่เห็นด้วยกับวัคซีนโควิด สนใจเหตุการณ์บุกรัฐสภาสหรัฐเมื่อ 6 มกราคม 2564 ที่นายโดนัล ทรัปป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ให้ท้าย

 

เหตุที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้ตำรวจในหลายมลรัฐได้เตือนนักการเมืองให้ระมัดระวังการถูกลอบทำร้ายจากกลุ่มขวาจัดหัวรุนแรง เพราะใกล้จะมีการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ

 

ที่เล่ามานี้ชี้ถึงความไม่ปลอดภัยที่เกิดขึ้นกับครอบครัวผู้นำระดับประเทศมีลักษณะของการตามไล่ล่า สำหรับแรงจูงใจหากเป็นไปตามที่ตำรวจสหรัฐระบุว่าเป็นพวกขวาจัดหัวรุนแรงแล้วละก้อ ความน่ากลัวจะเพิ่มขึ้นไปอีก เพราะพวกนี้มีแนวความคิดที่ว่าคนผิวขาวต้องเป็นใหญ่ เป็นผลมาจากความหลงเชื่อในคำพูดของผู้นำประเทศ หรือผู้ที่มีบทบาททางสังคมทำเผยแพร่ซ้ำๆ ผ่านโซเชียล มีเดีย

 

คนที่เสพติดแนวคิดแบบนี้พร้อมจะใช้ความรุนแรงทำลายศัตรู มีตัวอย่างมากมายที่เกิดขึ้นที่สหรัฐ กลายเป็นวัฒนธรรมเลียนแบบกระจายไปทั่วประเทศ สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินรวมถึงภาพลักษณ์ของประเทศ


—————-
หันกลับมาดูพัฒนาการความรุนแรงในไทย
—————-

 

ในไทยยังไม่เกิดเหตุถึงขั้นรุนแรงแบบนั้น แต่มีหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วทำให้อดคิดไม่ได้ว่าจะพัฒนาไปเป็นแบบนั้นหรือไม่ อย่างล่าสุดกรณีที่คุณศรีสุวรรณถูกคนที่ระบุว่า ตนเองเป็นคนเสื้อแดงบุกเข้าใช้กำลังชกต่อยที่หน้ากอง บก.ของตำรวจ เพราะไม่พอใจที่คุณศรีสุวรรณมีพฤติกรรมที่ชอบร้องเรียนเรื่องต่างๆ ต่อหน่วยงานของรัฐ

 

แม้คนกระทำจะถูกจับกุมดำเนินคดี แต่มีคนกลุ่มหนึ่งกลับออกมาแสดงความเห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงเพื่อสางแค้น มีการบริจาคเงินสนับสนุน หรือมีนักการเมืองหลายคนให้สัมภาษณ์เห็นเป็นเรื่องที่เหมาะสม

 

ความเห็นแบบนี้จะค่อยๆ กระจายออกสู่สังคมและซึมซับในหมู่เยาวชน กลายเป็นความรู้สึกว่าการใช้กำลังตัดสินปัญหาเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่น่ารังเกียจ จะว่าไปแล้วนักการเมืองไทยบางคนในสมัยนี้ชอบการมีชื่อเสียงให้เป็นที่จดจำอย่างรวดเร็ว ด้วยการสร้างข่าวแปลกๆ เช่น หิ้วระเบิดเข้าสภา หรือเกาะกระแสที่สื่อกำลังสนใจทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่โดยตรงเพื่อสร้างชื่อไปวันๆ

 

ผิดจากนักการเมืองยุคแรกๆ ที่สร้างชื่อเสียงด้วยการทำหน้าที่อย่างเต็มกำลัง มีผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ความสามารถ คุณภาพของ ส.ส.สะท้อนจากการอภิปรายในสภา


—————-
นักการเมืองที่ฉวยโอกาสตีกระทบสถาบันฯ เบื้องสูง
—————-

นักการเมืองมักฉวยโอกาสใช้เอกสิทธ์คุ้มครองการกระทำในเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ตัวอย่างที่เห็นชัดคือ การอภิปรายเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาของ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านคนหนึ่ง ที่พยายามใช้คำพูดไม่ถูกต้องโจมตีศาลที่ทำหน้าที่ไม่ถูกใจตัวเอง พยายามใช้ข้อมูลที่บิดเบือน ไม่เป็นเหตุเป็นผลพาดพิงให้ร้ายคนอื่น

 

โดยอ้างสิทธิประชาชนที่ทำผิดกฎหมายมาเป็นข้ออ้าง แท้จริงแล้วไม่ได้ต้องการที่จะช่วยเหลือคนเหล่านี้จริง แต่ต้องการใช้เอกสิทธิ์ในสภาจาบจ้วงคนอื่น ยังดีที่ประธานที่ประชุมรู้ทันจึงปิดไมค์เสียก่อน ให้เดาว่าคนนี้อยู่นอกสภาก็ไม่กล้าพูดได้แต่แอบอยู่หลังเวทีหลังม็อบ

 

แต่การใช้ hate speech แบบนี้ จะมีผลไปถึงคนอื่นที่ไม่รู้เท่าทัน มักเลียนแบบที่ ส.ส.พูดหรือปฏิบัติตัว แต่ตัวเองไม่มีเกราะคุ้มกัน หลายคนถูกดำเนินคดีกลายเป็นเหยื่อให้นักการเมืองนำมาเป็นประเด็นเล่นต่อเนื่องอีก


—————-
ระวังความปลอดภัยในการประชุม APEC
—————-

ยิ่งน่ากังวลช่วงที่ไทยกำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุม APEC ซึ่งจะมีผู้นำประเทศจำนวนมากเดินทางมาเข้าร่วมประชุม ฝ่ายที่ดูแลรักษาความปลอดภัยคงต้องวางกำลังคุ้มกันอย่างแน่นหนาเพราะไม่รู้ว่ามีคนคอยจ้องทำร้ายผู้นำเหล่านี้ในไทยหรือไม่

 

แม้แต่คนไทยเองก็มีหลายกลุ่มแล้วที่นัดหมายจะจัดกิจกรรมประท้วงการที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งบางกลุ่มเคยแสดงออกด้วยการกระทำที่รุนแรงพร้อมปะทะกับตำรวจ สร้างความวุ่นวายเพื่อที่จะฟ้องต่อต่างประเทศว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นประชาธิปไตย

 

ภาพที่แย่คือกลุ่มใช้ความรุนแรงเกือบทั้งหมดยังอยู่ในช่วงวัยที่เป็นเยาวชนที่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับโซเชียล มีเดีย หลายคนถูกเพาะบ่มความคิดด้วยข้อมูลที่ผิดๆ จากนักการเมือง นักวิชาการที่ต้องการพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินประเทศไทย

 

การประชุม APEC ที่จะถึงนี้จึงเป็นบทพิสูจน์ความสามารถของเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยของไทยอย่างแท้จริง คงต้องให้กำลังใจกันเพราะผลประโยชน์มหาศาลของประเทศรออยู่ข้างหน้า

 

—————-
รัฐธรรมนูญใหม่ที่ ส.ส.ต้องการ
—————-

 

มาถึงบทสรุปของอาทิตย์นี้ บทสรุปบ้านเมืองของเราในเวลานี้ไม่พ้นเรื่องการเมือง การปกครอง ทุกพรรคการเมืองและคณะบุคคลเดินเกมการเมืองทุกรูปแบบ เพื่อชิงอำนาจในสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งต้นปีหน้า

 

แถมพ่วงด้วยความพยายามที่จะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มาแทนที่รัฐธรรมนูญปัจจุบันที่ทำให้พรรคการเมืองทำงานด้วยความยากลำบาก มีข้อที่เป็นอุปสรรคมากมาย

 

ทำให้ไม่สามารถมีอำนาจใช้อำนาจได้อย่างอิสระ ไม่สามารถผันงบประมาณไปใช้ในเขตเลือกตั้งของตัวเองได้ ไม่สามารถผับงบประมาณไปเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องนายทุนหัวคะแนน ไม่สามารถได้องค์กรอิสระที่เป็นพวกของตัวเอง

 

คนไทยเราจึงได้เห็น ส.ส.มีมติท่วมท้นเสนอให้ รัฐบาลจัดให้มีการออกเสียงประชามติเพื่อทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือ สสร. เป็นการลงมติที่ ส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเห็นชอบร่วมกัน

 

​            จะว่าไปแล้วไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายที่พรรคการเมืองจะไม่เอารัฐธรรมนูญปัจจุบัน ถ้าใครฟังการอภิปรายในช่วงที่มีการแก้รัฐธรรมนูญบางมาตราที่ผ่านมา มีแต่ ส.ส.ที่แสดงความเห็นไปในทางอยากได้รัฐธรรมนูญใหม่

 

ส่วน ส.ว. ไปอีกทางคือสนับสนุนการแก้ไขบางมาตรา ไม่ให้แก้ไขบางมาตรา และไม่เห็นด้วยในการทำรัฐธรรมนูญใหม่ คนไทยจึงพอเห็นได้บ้างว่าสุดท้ายเรื่องการมี สสร.เพื่อทำรัฐธรรมนูญจะมีบทสรุปอย่างไร ลองเขียนติดฝาบ้านไว้ดูก็ได้ว่าจะถูกหรือไม่

—————-
จับตาพรรคการเมืองที่ต้องการชนกับสถาบันกษัตริย์
—————-


เรื่องรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องที่คนไทยทุกคนควรสนใจติดตามศึกษา ไม่ว่ารัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไรในอนาคต มีใหม่หรือไม่มีฉบับใหม่ มีแก้ไขบางเรื่องหรือไม่มี รัฐธรรมนูญก็ยังเป็นต้นกำเนิดของอำนาจในการปกครองบ้านเมืองให้สงบสุข เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า หรือล้มเหลวล่มสลาย

 

ที่สำคัญ รัฐธรรมนูญคือตัวกำหนดรูปแบบการปกครองของประเทศไทย อย่าไปคิดว่าชื่อระบอบการปกครอง แบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะเป็นจริงเฉกเช่นดังชื่อ

 

เนื้อในรายละเอียด มันอาจถูกเขียน ถูกกำหนดซ่อนอยู่ให้มีการปกครองที่แตกต่างไปจากที่เคยเป็นมาในประวัติศาสตร์ อันยาวนานของชาติไทย การปกครองที่ไม่เคยทำร้ายชาติไทยให้ย่อยยับอับจน

 

เวลานี้มีพรรคการเมืองและคณะบุคคลหนึ่งกำลังคิดทำเช่นนั้นอยู่ มีผู้นำคนหนึ่งของคณะบุคคลที่ว่าไปพูดในต่างประเทศเมื่อเร็วๆ นี้ เรื่องความนิยมของคนไทยในระบอบสาธารณรัฐ ชี้ชวน ชี้นำให้ไปในทิศทางการมีสาธารณรัฐ

 

 มี ส.ส.หลายคนของพรรคการเมืองนี้ใช้สภาเป็นที่พูดด้อยค่าสถาบันพระมหากษัตริย์ องค์กรศาลตุลาการ ใส่ร้ายป้ายสี ทำให้กลุ่มคนที่พวกเขาหวังคะแนนเสียง ในการเลือกตั้งหลงเชื่อ ยกย่องเชิดชูในความกล้าหาญ หย่อนบัตรกาคะแนนให้ ทั้งที่อ่อนด้อยทางศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรม ขี้ขลาดที่ใช้ความเท็จพูดให้ร้ายผู้อื่น

 

คนพวกนี้อยากได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อยากได้ สสร. เพื่อเป็นเวทีให้เสนอ ให้มีมาตราที่เอื้อต่อแนวคิดทางการเมืองการปกครอง ของพวกเขา เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญไม่ได้ ก็ขอให้ได้พูดให้ได้อภิปราย ได้ใช้เวที สสร. บิดเบือน ปลุกระดม

 

พรรคการเมืองและคณะบุคคลที่ว่านี้อยากได้ ส.ส.มากขึ้น อยากได้สมาชิก สสร. เข้ามาเยอะๆ เพราะเขาเชื่อว่ามันคือพลังที่เขาจะใช้เปลี่ยนแปลงประเทศไปในทิศทางที่ต้องการ

บ้านเมืองของเราจะเดินต่อไปอย่างไร จากนี้ไปเป็นก้าวย่างที่สำคัญ นักการเมือง พรรคการเมือง คือ ปัจจัยสำคัญที่จะพาบ้านเมืองเดินไปได้ในทิศทางที่ควรจะเป็น เดินไปได้อย่างสงบ เรียบร้อย มีความขัดแย้งกันบ้าง แต่ความขัดแย้งนั้นก็สามารถใช้วิถีแห่งศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม เข้าแก้ไขรอมชอม ผ่อนหนักให้เป็นเบา การเลือกตั้งครั้งหน้า การมีรัฐบาลครั้งหน้า มีความสำคัญต่อความเป็นไปของบ้านเมืองจริงๆ

 

อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า