
H&M และ Gap เพิ่มราคารับซื้อ เสื้อผ้าที่ผลิตในบังกลาเทศ เพื่อช่วยเหลือโรงงาน ที่เจอผลกระทบจากค่าแรงขั้นต่ำขึ้นเกือบ 60% ในช่วงก่อนการเลือกตั้งเดือนมกราคมปีหน้า
ผู้ค้าปลีกแฟชั่นระดับโลก รวมถึง H&M และ Gap เตรียมปรับเพิ่มราคารับซื้อ (purchase price) เสื้อผ้าที่ผลิตในบังกลาเทศ เพื่อช่วยเหลือโรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ สมาคมเครื่องแต่งกายและรองเท้าสหรัฐฯ (American Apparel and Footwear Association: AAFA) ซึ่งมีสมาชิกเป็นแบรนด์ชั้นนำกว่า 1,000 แบรนด์ เผย
สัปดาห์นี้ รัฐบาลบังกลาเทศ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกเสื้อผ้ารายใหญ่ที่สุดของโลกรองจากจีน ได้ออกคำสั่งให้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเกือบ 60% ต่อเดือน เป็น 113 ดอลลาร์ (ราว 4,011 บาท) ตั้งแต่เดือนธันวาคม ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 ปี หลังจากที่แรงงานชาวบังกลาเทศที่เป็นช่างเย็บผ้าให้บรรดาแบรนด์ดัง ออกมาประท้วงค่าแรงไม่เป็นธรรมจนมีผู้เสียชีวิต
เจ้าของโรงงาน ระบุว่าการปรับขึ้นค่าแรง ซึ่งมีขึ้นก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนมกราคม จะส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรโดยจะเพิ่มต้นทุนราว 5-6% ทั้งนี้ ค่าแรงคิดเป็น 10-13% ของต้นทุนการผลิตทั้งหมด ตามการประมาณการของอุตสาหกรรม
“เราและสมาชิกได้ย้ำหลายครั้งแล้วว่า เรามุ่งมั่นที่จะจัดซื้ออย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อสนับสนุนการปรับเพิ่มค่าแรง” “เรายังได้เรียกร้องให้มีการนำกลไกการทบทวนค่าแรงขั้นต่ำประจำปีมาใช้ เพื่อให้แรงงานชาวบังกลาเทศไม่เสียเปรียบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะเศรษฐกิจมหภาค” ลามาร์ กล่าวในอีเมล
ค่าแรงที่ต่ำช่วยให้บังกลาเทศสร้างอุตสาหกรรมตัดเย็บเสื้อผ้าซึ่งมีแรงงานถึง 4 ล้านคน เสื้อผ้าสำเร็จรูปเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยคิดเป็นเกือบ 16% ของ GDP
แม้ว่ารัฐบาลมีคำสั่งปรับเพิ่งค่าแรงขั้นต่ำ แต่แรงงานบางคนมองว่ายังน้อยเกินไป โดยบังกลาเทศยังตามหลังศูนย์กลางการผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปในภูมิภาคอื่นๆ อย่าง เวียดนาม ซึ่งค่าแรงเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 275 ดอลลาร์ (ราว 9,762 บาท) และกัมพูชา ซึ่งอยู่ที่ 250 ดอลลาร์ (ราว 8,875 บาท) ข้อมูลจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ระบุ
(1 ดอลลาร์ = 35.50 บาท)