
ซีอีโอ Ford บ่นนโยบายทรัมป์ สร้างความวุ่นวายให้อุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐฯ
จิม ฟาร์ลีย์ ซีอีโอของ Ford ตำหนิทรัมป์ว่าเป็นต้นเหตุของ ‘ความวุ่นวาย‘ ในอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐฯ
จิม ฟาร์ลีย์ (Jim Farley) ซีอีโอของ Ford ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ วิจารณ์มาตรการภาษีของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ โดยระบุว่า การเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% ที่จะบังคับใช้ในเดือนมีนาคมนั้น ส่งผลให้ภาคส่วนยานยนต์ต้องแบกรับต้นทุนจำนวนมหาศาลและเกิดความวุ่นวายมากมาย
ฟาร์ลีย์ ยังเตือนด้วยว่า มาตรการภาษีดังกล่าวอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อผู้ผลิตรถยนต์ของสหรัฐฯ เนื่องจากจะทำให้กำไรลดลงหลายพันล้านดอลลาร์, ส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน และทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ รถยนต์ Ford ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ กว่า 80% ผลิตในประเทศ
“ประธานาธิบดีทรัมป์พูดหลายครั้งเกี่ยวกับเรื่องการทำให้ภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐฯ แข็งแกร่งขึ้น การนำการผลิตเข้ามาในประเทศมากขึ้น และการนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาในสหรัฐอเมริกา ซึ่งหากรัฐบาลของเขาสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้… ก็จะถือเป็นความสำเร็จที่โดดเด่นที่สุดอย่างหนึ่ง” ฟาร์ลีย์กล่าวในการประชุม Wolfe Research เมื่อวันอังคาร (11 ก.พ.) พร้อมเสริมว่า แนวทางปัจจุบันนั้นน่าวิตกกังวลและก่อให้เกิด “ความไม่แน่นอนทางด้านนโยบาย” อย่างมีนัยสำคัญ
ฟาร์ลีย์อ้างถึงลักษณะการเลือกปฏิบัติของภาษีศุลกากรว่าเป็นปัญหาสำหรับอุตสาหกรรม โดยระบุว่า ในขณะที่เม็กซิโกและแคนาดาตกเป็นเป้า เกาหลีใต้และญี่ปุ่นซึ่งเป็นบ้านเกิดของ Hyundai, Kia และ Toyota กลับไม่ต้องเผชิญกับภาษีศุลกากรเพิ่มเติม ซึ่งสิ่งนี้สร้าง “ผลประโยชน์มหาศาล” ให้กับคู่แข่งต่างชาติ พร้อมกับเรียกร้องให้มีนโยบายที่มีความสมดุล
นอกเหนือจากภาษีแล้ว ฟาร์ลีย์ยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะการยกเลิกกฎหมายลดเงินเฟ้อ (Inflation Reduction Act) ซึ่งให้เงินอุดหนุนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และแบตเตอรี่ในสหรัฐฯ
ฟาร์ลีย์เตือนว่าการยกเลิกแรงจูงใจเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและการลงทุนในรัฐเทนเนสซี โอไฮโอ มิชิแกน และเคนตักกี้ ซึ่งฟอร์ดกำลังขยายโครงสร้างพื้นฐานรองรับรถยนต์ไฟฟ้า
ขณะที่ ผู้นำอุตสาหกรรมจากหลายภาคส่วนแสดงความกังวลว่าภาษีดังกล่าวอาจนำไปสู่ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น,การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน และความท้าทายทางเศรษฐกิจในวงกว้าง
เจมส์ ควินซี (James Quincey) ซีอีโอของบริษัท Coca-Cola กล่าวว่า ภาษีเหล็กและอลูมิเนียมอาจทำให้ต้นทุนการผลิตเครื่องดื่มกระป๋องสูงขึ้น
แกรี่ มิลเลอร์ชิป (Gary Millerchip) ซีเอฟโอของบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ Costco เตือนว่าราคาสินค้าจะพุ่งสูงขึ้นเป็นวงกว้าง “เมื่อฝนตก ก็จะเปียกกันทุกคน” เขากล่าว
เคน กริฟฟิน (Ken Griffin) ซีอีโอของบริษัทลงทุน Citadel มองว่านโยบายภาษีศุลกากรเป็นภัยคุกคามต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและพันธมิตรทางการค้า โดยให้เหตุผลว่านโยบายดังกล่าวสร้างความไม่แน่นอนและอาจทำให้ความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯ ลดลง