Articlesบทความนักเขียนนักล่าดาว Michelin Star ข้อแตกต่างระหว่าง Food Guru กับ นักล่าดาวไว้อวดหรูในโซเชียล ดร.ณพรรษธ์สรฌ์ เสมสันต์ นักวิชาการอิสระ

นักล่าดาว Michelin Star ข้อแตกต่างระหว่าง Food Guru กับ นักล่าดาวไว้อวดหรูในโซเชียล ดร.ณพรรษธ์สรฌ์ เสมสันต์ นักวิชาการอิสระ

หากจะกล่าวถึงที่มาที่ไปของร้านที่ได้ดาวจาก Michelin หรือที่เราคุ้นหูกันว่า Michelin Star นั้น เดิมทีมีจุดกำเนิดเพียงเป็นหนังสือแนะนำ แผนที่ ตำแหน่งปั๊มน้ำมันรถ สถานที่ท่องเทียว และวิธีเปลี่ยนยางจากบริษัท Michelin

 

โดย บริษัทได้ข้อมูลเหล่านี้มาระหว่างออกไปเทไดรฟ์ผลิตภัณฑ์ของตน จากนั้นก็เริ่มรวบรวมตีเพิ่มข้อมูลแจกฟรี โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อโฆษณาและกระตุ้นยอดขาย 

 

ทว่าวันหนึ่งที่ผู้ก่อตั้งไปพบว่า Guide ที่เขาตั้งใจรวบรวมข้อมูลนั้น ถูกเอาไปรอขาโต๊ะ ราวกับเอาความตั้งใจแรงกายที่เขาทุ่มเทลงไปใช้อย่างกับของไร้ราคา  Mr. André Michelin จึงตัดสินใจที่จะเพิ่มมูลค่าให้หนังสือเล่มนี้ ด้วยการเพิ่มรายชื่อโรงแรม ร้านอาหารต่าง ๆ และยังขยายพื้นที่สำหรับขายโฆษณาอีกด้วย จากนั้นจึงเริ่มมีการจัดจำหน่ายอย่างจริงจังเมื่อปี 1920 ในราคา 7 ฟรังค์ (สกุลเงินของฝรั่งเศส ในสมัยนั้น)

 

แน่นอนว่า Michelin Guide เล่มนี้ ส่วนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือส่วนแนะนำร้านอาหาร จนถึงขั้นต้องมีการจ้างนักชิมจริงจัง โดยไปชิมอย่างไม่เปิดเผยตัวตน หรือที่เรารู้จักกันว่า ‘ผู้ตรวจสอบมิชลิน’ หรือ Food Inspector และสาเหตุหลักของการทีต้องไม่เปิดเผยตัวตน ก็เพราะว่าไม่ต้องการให้พวกเขาได้รับสิทธิพิเศษหรือการปฏิบัติแบบพิเศษ เพื่อความเป็นกลางในการจัดอันดับ 

 

ซึ่งมีเกณฑ์ดังนี้

 

  1. คุณภาพของวัตถุดิบ
  2. ความโดดเด่นของรสชาติและเทคนิคการทำอาหาร
  3. เอกลักษณ์เฉพาะตัวของพ่อครัวที่นำเสนอ
  4. ความคุ้มค่าสมราคา
  5. ความคงที่ของรสชาติในการกินต่างวาระ



ที่นี่เราลองมาดูกันบ้างว่า มิชลินแต่ละดาวมีความแตกต่างกันอย่างไรถ้าอธิบายกันอย่างง่าย ๆ คงว่าได้ตามนี้

 

Michelin Star 1 ดาว  =  ร้านอาหารที่เลือกสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง มีรสชาติดีเยี่ย บรรยากาศอาจจะไม่ต้องหรูหรา

Michelin Star 2 ดาว = ร้านอาหารที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร เชฟประจำร้านมีความเชี่ยวชาญในการประดิษฐ์เมนูอาหาร การบริการอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่พนักงานได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี

Michelin Star 3 ดาว = หมายถึง ร้านอาหารที่มีเชฟที่ชำนาญ เชี่ยวชาญ และสามารถยกระดับศิลปะการทำอาหารขึ้นไปอีกขั้น สมบูรณ์พร้อมทั้งรูป รสกลิ่นเสียง และความเหมาะสมของสถานที่

 

แต่ที่จะพูดในบทความนี้ คือความสับสนของคนไทยบางกลุ่มที่ไม่รู้ว่าร้าน ‘Michelin Starred’ ทั้ง 3 ประเภท แตกต่างจากร้านที่ได้รับ บิบ กูร์มองด์ หรือ Bib Gourmand หรือร้านที่ได้รับผ้ากันเปื้อนที่มีรูปมิชลิน แมนเลียริมฝีปาก

 

นั่นคือจุดที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างมาก เพราะหลายครั้งหลายหนที่มักจะได้ยินว่าร้านนั้นร้านนี้เป็นร้านมิชลิน ซึ่งอันที่จริงแล้วยังไม่ใช่ ทว่าเป็นเพยงร้านที่ได้รับการพิจารณาแล้ว ว่าเป็นร้านอาหารอร่อยในราคาย่อมเยาโดยที่ไม่เกินค่าครองชีพในพื้นที่นั้น ๆ 

 

มาถึงจุดนี้คงพอทำให้เข้าใจความแตกต่างของร้านที่ได้รางวัล Michelin ในแต่ละประเภทกันบ้างแล้ว

 

แต่ที่ต้องการจะวิเคราะห์ต่อก็คือ หลายครั้งหลายหนที่เห็นผู้คนมากมายกระเสือกระสนดิ้นรนต้องไปชิมร้านติดดาวให้ได้สักครั้ง เพียงเพื่อถ่ายรูปลง Social Media ว่าตัวเองก็เป็นคนติดเทรนด์ 

 

ทว่าหากถามลึกลงไปถึงวัตถุดิบวิธีธรรม หรือแม้กระทั่งว่าควรจับคู่อาหารเหล่านั้นกับเครื่องดื่มประเภทใด ‘นักกิน’ มือใหม่ ที่เรียกว่าสาย ‘ล่าดาว’ อาจจะตอบไม่ได้ด้วยซ้ำ

 

ต่างจาก Food Guru หรือผู้ที่มีความหลงหลในอาหารอย่างแท้จริง คนกลุ่มนี้จะรู้ที่มาที่ไปของวัตถุดิบ ทราบฤดูกาลที่ควรรับประทาน โดยเน้นการเสาะแสวงหากินของอร่อย ส่วนเรื่องเก็บดาว ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ ดีไม่ดีคนกลุ่มนี้นั่งในร้านสามดาวมาตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นก็ยังได้ 

 

โดยการกลับไปเยี่ยมเยียนร้านที่ได้รับการประดับดาวต่าง ๆ ก็จะเป็นไปเพราะลุ่มหลงในรสชาติ อยากเห็นพัฒนาการของเชฟ อยากลองเมนูที่รังสรรค์ากวัตถุดิบใหม่ตามฤดูกาล หรือไม่ก็ไปเป็นประจำ ไม่ว่าจะมีวาระโอกาสพิเศษหรือไม่ก็ตาม 

 

ดีไม่ดีกลุ่มคนเหล่านี้จะมีสายสัมพันธ์อันดีกับเชฟด้วยความคุ้นเคย จนไม่จำเป็นต้องรอต่อคิวเป็นปี ๆ เพราะถือว่าเป็นลูกค้า VIP ที่มี Loyalty สูงมาก

 

หลัง ๆ คนกลุ่มนี้ ก็ยัง ‘เก็บดาว’ สำหรับร้านใหม่ ๆ ที่ได้รับการการันตีอย่างต่อเนื่อง และเริ่มที่จะเบนเข็มไปหาร้านลับไปก็  Chef Table ที่มีความถนัดเฉพาะทาง

 

และยิ่งในปัจจุบันนี้ที่ร้านอาหารในประเทศไทยมากมายได้รับรางวัล Michelin Star มันยิ่งทำให้กระแส ‘ล่าดาว’ รุนแรงขึ้น มากกว่าการตามกินของอร่อยจากเชฟฝีมือดี ทว่ามันเปรียบเสมือนการแข่งขันสถานะทางสังคม ว่าใครจองได้คือเก่ง ใครได้กินคือเริ่ด

 

ดังนั้นเราอาจจะต้องมาถามตัวเองอีกที ว่าไอ้ที่ตะบี้ตะบันไล่จองร้านดังกันอยู่ตอนนี้ เป็นเพราะคุณหลงหลในอาหาร หรือต้องการภาพไว้อวดคนกันแน่

 

ดร.ณพรรษธ์สรฌ์ เสมสันต์ 

นักวิชาการอิสระ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า