
สมศักดิ์เปิด “ตู้ห่วงใย” แห่งแรกของนนท์ ให้บริการผู้เจ็บป่วยเล็กน้อยผ่านระบบแพทย์ทางไกล ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายของประชาชน
สมศักดิ์เปิดตู้ห่วงใยแห่งแรกของจังหวัดนนทบุรี หลังเปิดให้บริการแล้ว 4 แห่ง ที่กรุงเทพมหานคร เพื่อให้คนไทยเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ลดเวลา และค่าใช้จ่ายของประชาชน ตั้งเป้าขยายครอบคลุมโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขอีกกว่า 900 แห่งทั่วประเทศ
ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดตู้ห่วงใย (Smart Health Cabin) แห่งแรกของจังหวัดนนทบุรี โดยมี นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นพ.ปรีชา เปรมปรี ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 4 นพ.รุ่งฤทัย มวลประสิทธิ์พร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี นพ.สกล สุขพรหม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า คุณชัชฎา อภิชาสุทธากุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทัช เทคโนโลยี จำกัด คณะผู้บริหาร และประชาชน เข้าร่วม
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายยกระดับระบบสาธารณสุขจาก 30 บาทรักษาทุกโรคมาเป็น 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อให้คนไทยเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ลดเวลา และค่าใช้จ่าย
ซึ่งตู้ห่วงใยเป็นหนึ่งในนวัตกรรมสุขภาพที่ช่วยขับเคลื่อนนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ทำให้ประชาชนที่เจ็บป่วยเล็กน้อยใน 42 อาการหรือกลุ่มโรค สามารถรับบริการตรวจสุขภาพ พบแพทย์ผ่านระบบการแพทย์ทางไกล หรือ Telemedicine และรับยาได้ฟรี
อีกทั้งยังช่วยรวมข้อมูลสุขภาพ ซึ่งจะทำให้การกำหนดนโยบายด้านสุขภาพ การบริหารงบประมาณ และการวิเคราะห์โรคด้วย AI เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และที่สำคัญยังช่วยลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ได้อีกทางหนึ่ง
ทั้งการลดภาระงานของแผนกผู้ป่วยนอก หรือ OPD ในช่วงกลางวัน และช่วยลดภาระงานของห้องฉุกเฉิน หรือ ER ในช่วงกลางคืน ซึ่งจะทำให้แพทย์มีเวลาดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินได้มากขึ้น
โดยที่ผ่านมา เปิดให้บริการตู้ห่วงใยแล้ว 4 แห่ง ในเขตกรุงเทพมหานคร สำหรับตู้ห่วงใยที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้านี้ เป็นแห่งแรกในจังหวัดนนทบุรี และจะขยายไปยังโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข อีกกว่า 900 แห่ง ทั่วประเทศต่อไป
ด้าน นพ.โอภาส กล่าวว่า “ตู้ห่วงใย” เป็นความร่วมมือของกระทรวงสาธารณสุข สปสช. และภาคเอกชน ถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ลดระยะเวลารอคอย และช่วยลดภาระงานของโรงพยาบาล โดยเฉพาะ OPD และ ER ที่ต้องรองรับผู้ป่วยจำนวนมาก
โดยผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อย สามารถเข้ารับการตรวจผ่านระบบ Telemedicine ได้ภายในเวลาไม่กี่นาที และได้รับยาอย่างรวดเร็ว ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขสามารถติดตามข้อมูลสุขภาพของประชาชนได้แบบเรียลไทม์ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ Smart Health care & Digital Health Transformation ของกระทรวงสาธารณสุข
โดยตู้ห่วงใย โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จะให้บริการทุกวัน เวลา 08.00-22.00 น. ที่ชั้น 1 อาคารความเชี่ยวชาญด้านอุบัติเหตุและพักผู้ป่วย 9 ชั้น
นพ.จเด็จ กล่าวว่า สปสช. ได้พัฒนาระบบบัตรทองมาอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้เป็นการดำเนินการเข้าสู่ปีที่ 23 และนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ นับเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของระบบบัตรทอง ไม่เพียงแต่เพิ่มความสะดวกในการเข้ารับการรักษาพยาบาลให้กับประชาชนผู้มีสิทธิร่วม 48 ล้าน
ตู้ห่วงใยเป็นอีกก้าวหนึ่งที่ สปสช. ได้เพิ่มเติมเป็นบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นรูปแบบของการให้บริการสุขภาพเชิงรุกในชุมชนที่ให้การดูแลหากเกิดภาวะเจ็บป่วยขึ้น โดยครอบคลุม 42 กลุ่มโรค
คุณชัชฎา กล่าวว่า ตู้ห่วงใย มีอุปกรณ์การแพทย์ที่ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Internet of Medicare Things ช่วยให้แพทย์ได้รับข้อมูลที่รวดเร็ว ถูกต้อง ทำให้รักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้บริการรวดเร็วภายใน 10 นาที โดยนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการวิเคราะห์เชิงลึก การคาดการณ์ความเสี่ยงของโรคและสร้างการวิเคราะห์แนวโน้มสุขภาพส่วนบุคคล
ซึ่งเป็นการสร้าง Big Data ทางด้านสุขภาพ เพื่อติดตามพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงของสุขภาพประชาชน และยังนำข้อมูลมาวิเคราะห์และปรับแผนการพัฒนาโครงการในอนาคตได้