
ลงโฆษณาต้องยืนยันตัวตนทุกคน Facebook เดินหน้ายืนยันตัวตนผู้ลงโฆษณาทุกราย หลังพบโฆษณาหลอกลวงประชาชนพุ่งสูง
Meta เตรียมตรวจสอบตัวตนของผู้ลงโฆษณาบน Facebook โดยจะเปรียบเทียบกับเอกสารราชการภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดภายใต้ พระราชบัญญัติว่าด้วยอาชญากรรมทางออนไลน์ที่เป็นอันตราย (OCHA) ของสิงคโปร์
การดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่กระทรวงมหาดไทย (MHA) ของสิงคโปร์พบว่าการหลอกลวงจากโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Facebook เพิ่มขึ้น 12% ระหว่างเดือน มิ.ย.-ธ.ค. 2024
ในช่วง 6 เดือนนี้ กระทรวงมหาดไทยสิงคโปร์จะอนุญาตให้ Meta ดำเนินมาตรการตรวจสอบตัวตนผู้โฆษณาบางรายบน Facebook หากจำนวนโฆษณาหลอกลวงไม่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทางกระทรวงจะเพิ่มความเข้มงวดในข้อกำหนด
“Meta วางแผนที่จะตรวจสอบตัวตนของผู้ลงโฆษณาบน Facebook ในสิงคโปร์ทั้งหมดภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2025 เรายินดีเป็นอย่างยิ่งและจะติดตามผลอย่างใกล้ชิด” กระทรวงกล่าวในข่าวประชาสัมพันธ์เมื่อวันจันทร์ (10 มี.ค.)
ราฟาเอล ฟรังเคล (Rafael Frankel) ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสาธารณะภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Meta กล่าวว่าภายใต้มาตรการใหม่นี้ ผู้ลงโฆษณาจะต้องตรวจสอบและเปิดเผยผู้รับผลประโยชน์และผู้ชำระเงินสำหรับโฆษณาที่กำหนดเป้าหมายไปที่ผู้ใช้ในสิงคโปร์ก่อนเริ่มแคมเปญโฆษณาใหม่ โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกรวบรวมไว้ในแผ่นข้อมูลโฆษณา และในคลังโฆษณาที่เปิดเผยต่อสาธารณะ สำหรับธุรกิจที่ได้ดำเนินการยืนยันตัวตนกับ Facebook แล้วไม่จำเป็นต้องยืนยันตัวตนอีกครั้ง
ฟรังเคล ยังกล่าวด้วยว่าเทคโนโลยีจดจำใบหน้าที่ทาง Meta ได้เริ่มการทดสอบตั้งแต่เดือน ต.ค. ที่ผ่านมา เพื่อจัดการกับโฆษณาประเภท “เซเลบเบท” หรือโฆษณาที่ใช้คนดังเป็นตัวล่อ จะถูกขยายการใช้งานไปยังประเทศสิงคโปร์ในอนาคตอันใกล้ด้วย
“เรายังอยู่ในช่วงทดสอบเทคโนโลยีนี้เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถยืนยันตัวตน และกู้คืนการเข้าถึงบัญชีที่ถูกแฮ็ก ซึ่งเป็นช่องทางที่มักถูกใช้ในการหลอกลวง” ฟรังเคล กล่าว
ภายใต้หลักปฏิบัติใหม่สำหรับบริการอีคอมเมิร์ซที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2024 Meta จำเป็นต้องนำมาตรการต่างๆ มาใช้เพื่อปกป้องผู้ใช้จากการหลอกลวง เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการหลอกลวงทางอีคอมเมิร์ซ
Facebook คิดเป็นสัดส่วน 37.4% ของการหลอกลวงทางอีคอมเมิร์ซทั้งหมด ในปี 2024 โดยมีรายงานถึง 4,368 กรณี
นอกเหนือจากโฆษณาหลอกลวงแล้ว กระทรวงมหาดไทยสิงคโปร์ยังสังเกตเห็นการหลอกลวงทางอีคอมเมิร์ซ “จำนวนมาก” เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์ม Facebook โดยมิจฉาชีพจะสร้างเพจโดยอ้างว่าจำหน่ายสินค้าและบริการเพื่อเข้าถึงและล่อลวงเหยื่อ
กระทรวงมหาดไทยสิงคโปร์เปิดเผยว่า กำลังร่วมมือกับ Meta เพื่อเตรียมแนะนำมาตรการตรวจสอบตัวตนที่เข้มงวดสำหรับเพจ Facebook ซึ่งคาดว่าจะเริ่มใช้งานในปี 2025 โดยในช่วงแรก Meta จะได้รับอนุญาตให้ใช้มาตรการดังกล่าวกับบางเพจเท่านั้น
ประสิทธิภาพของมาตรการดังกล่าวจะถูกประเมินในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่นเดียวกับบริการอื่นๆ ของ Facebook หากพบว่าจำนวนการหลอกลวงไม่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ กระทรวงมหาดไทยสิงคโปร์อาจกำหนดให้มีการบังคับใช้มาตรการตรวจสอบตัวตนครอบคลุมทุกเพจบนแพลตฟอร์ม
ในส่วนของ Marketplace กระทรวงมหาดไทยสิงคโปร์ กล่าวว่าจำนวนกรณีการหลอกลวงที่เกิดขึ้นบน Facebook Marketplace ลดลงถึง 55% ในช่วงระยะเวลาประเมิน ซึ่งนับเป็นความก้าวหน้าที่น่าพอใจ โดยกระทรวงยืนยันว่าจะยังไม่กำหนดมาตรการตรวจสอบตัวตนที่เข้มงวดสำหรับผู้ขายทั้งหมดบนแพลตฟอร์มดังกล่าวในตอนนี้
อย่างไรก็ตาม กระทรวงมหาดไทยสิงคโปร์ยังคงจับตาสถานการณ์บน Marketplace อย่างใกล้ชิด ซึ่งปัจจุบันมาตรการตรวจสอบครอบคลุมเฉพาะกลุ่มผู้ขายบางราย โดยกระทรวงจะกำหนดให้ Meta ดำเนินการตรวจสอบตัวตนของผู้ขายเพิ่มเติม หากพบว่าสถานการณ์เริ่มแย่ลง