
EU คว่ำบาตรชุดใหม่ โดยเล็งไปที่ LNG ของรัสเซีย โดยห้ามลำเลียงก๊าซ LNG รัสเซียไปยังประเทศที่ 3 แต่ไม่ได้ห้ามสมาชิกอียูซื้อก๊าซจากรัสเซีย
สหภาพยุโรป (EU) ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียชุดที่ 14 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่อียูพุ่งเป้าไปที่ภาคก๊าซของรัสเซียโดยเฉพาะ
รัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรป เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (24 มิ.ย.) ว่า มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่พุ่งเป้าไปที่การปิดกั้นรายได้จากการส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ของรัสเซีย โดยห้ามการลำเลียงก๊าซ LNG ของรัสเซีย ไปยังประเทศที่ 3 ผ่านยุโรป แต่ไม่ได้ห้ามชาติสมาชิกอียู ซื้อก๊าซ LNG ของรัสเซีย และเงื่อนไขที่อนุญาตให้สวีเดนและฟินแลนด์ยกเลิกสัญญา LNG บางส่วนได้
นอกจากนี้ ยังห้ามการลงทุนใหม่ รวมถึงการจัดหาสินค้า เทคโนโลยี และบริการ โดยผู้ประกอบการในสหภาพยุโรปเพื่อให้โครงการ LNG ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในรัสเซียเสร็จสมบูรณ์
ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดก๊าซ มองว่ามาตรการดังกล่าวน่าจะส่งผลกระทบต่อรัสเซียเพียงเล็กน้อย เนื่องจากยุโรปยังคงซื้อก๊าซรัสเซียได้ และการขนส่งผ่านท่าเรือของสหภาพยุโรปไปยังเอเชียคิดเป็นประมาณ 10% ของการส่งออก LNG ของรัสเซียทั้งหมด
มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ซึ่งจุดมุ่งหมายเพื่อปิดช่องโหว่การหลบเลี่ยงการคว่ำบาตร ด้วยการเพิ่มบทลงโทษผู้ฝ่าฝืน ยังได้ขยายขอบเขตให้ครอบคลุมหน่วยงานและบุคคล 116 ราย ทําให้จํานวนหน่วยงานและบุคคลที่ถูกคว่ำบาตรอยู่ที่กว่า 2,200 ราย
อียู ยังได้จำกัดการส่งออกสินค้าที่สหภาพยุโรปเชื่อว่ามีส่วนช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางอุตสาหกรรมของรัสเซีย เช่น สารเคมี รวมถึงแร่แมงกานีส แร่แรร์เอิร์ธ พลาสติก เครื่องจักรขุด จอภาพ และอุปกรณ์ไฟฟ้า รวมถึงห้ามการนำเข้าฮีเลียมของรัสเซีย ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในกระบวนการทางอุตสาหกรรมหลายอย่าง เช่น การผลิตใยแก้วนำแสงและเซมิคอนดักเตอร์
ในภาคการเงิน อียูสั่งห้ามธนาคารสหภาพยุโรปที่เปิดดำเนินงานนอกรัสเซียใช้ระบบชำระเงินระหว่างประเทศ “SPFS” ของรัสเซีย