Newsแพทองธาร-ทักษิณ เปิดบ้านต้อนรับ ปธน. อินโดฯ ‘รศ.ดร.ปณิธาน’ ชี้จะทำให้เกิดความไม่ชัดเจน ซับซ้อน และสับสน ที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

แพทองธาร-ทักษิณ เปิดบ้านต้อนรับ ปธน. อินโดฯ ‘รศ.ดร.ปณิธาน’ ชี้จะทำให้เกิดความไม่ชัดเจน ซับซ้อน และสับสน ที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

สืบเนื่องจากกรณีที่นายปราโบโว ซูเบียนโต ว่าที่ประธานาธิบดีของอินโดนีเซีย โพสต์สื่อโซเชียลมีเดีย เปิดเผยว่าตนเองได้เข้าพบ น.ส. แพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2567

รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์กับ The Publisher ถึงกรณีดังกล่าวว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักในบริบทการต่างประเทศของหลายประเทศ ซึ่งรวมไปถึงประเทศไทยด้วย ที่ประธานาธิบดีมาเยี่ยมเยียนเป็นการส่วนตัว ยกเว้นในกรณีที่เป็นเพื่อนสนิทกันจริง ๆ และมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก่อน

 

ทั้งนี้การเยี่ยมเยียนบุคคลที่อยู่ในตำแหน่งส่วนใหญ่จะเป็นในลักษณะที่เป็นทางการ ที่มีกำหนดการค่อนข้างชัดเจน เพราะว่าหลายประเทศต้องการหลีกเลี่ยงความซับซ้อนในการเดินทาง ดำเนินความสัมพันธ์ และเพื่อหลีกเลี่ยงข้อครหาต่าง ๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมของความสัมพันธ์

 

แต่เรื่องในลักษณะนี้นั้น มีให้เห็นเป็นระยะ ๆ หากมีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ดี และมีการเยี่ยมเยียนไปมาหาสู่กันมาก่อนอย่างเป็นปกติ และเป็นเวลาหลายสิบปี จึงจะถือว่าไม่ได้มีความผิดปกติ 

 

แต่ในบางกรณีที่ผู้นำเพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่ และมีความซับซ้อนทางการเมืองนั้น ถือเป็นเรื่องที่ควรระวัง เนื่องจากอาจทำให้เกิดความซับซ้อนขึ้นได้

 

เมื่อถามถึงกรณีที่ น.ส. แพทองธารสวมชุดขาวถ่ายภาพร่วมกับนายทักษิณ และนายปราโบโว และถูกเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียด้วยนั้น จะทำให้แยกแยะลำบากหรือไม่ รศ.ดร. ปณิธานกล่าวว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอินโดนีเซียนั้นไม่ได้ถือว่าดีนัก ในรอบหลายปีมานี้มีความห่างเหินอยู่พอสมควร ในบางกรณี อย่างเช่นกรณีการแก้ไขปัญหาในเมียนมา ก็มีความซับซ้อนและมีความเห็นที่แตกต่างกันมาหลายปี

 

การดำเนินความสัมพันธ์ของบุคคลที่ไม่ได้เป็นทางการ ในหลายกรณีก็ช่วยได้ ถือว่าเป็นผลดีเช่นกัน หากว่ามีการจัดระบบให้ชัดเจนว่าอยู่ในบริบทใด ในบางประเทศมีการตั้งบุคคล หรือกลุ่มบุคคลให้เป็นผู้แทนพิเศษของประเทศในเรื่องเฉพาะนั้น ๆ  ซึ่งจะทำให้เข้าระบบในการเป็นตัวแทนของประเทศ และไม่มีเรื่องทับซ้อนกับเรื่องส่วนตัว

 

ในกรณีนี้อาจจะต้องแยกแยะและมีการจัดระบบให้ดี เนื่องจากการแต่งชุดเข้าเฝ้าฯ หรือว่าแต่งชุดขาว ในระหว่างที่มีการดำเนินการหลายอย่างทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ รวมทั้งเรื่องคดีต่าง ๆ ก็อาจจะก่อให้เกิดความซับซ้อนขึ้นมาได้

 

เมื่อถามว่าภาพดังกล่าวจะทำให้เกิดปัญหาตามมาได้หรือไม่ รศ.ดร. ปณิธานกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความแน่ชัด เนื่องจากว่านายปราโบโวระบุว่าเป็นการเยี่ยมเยียนกันของเพื่อน แต่ว่าประเด็นว่ามีอะไรมากกว่านั้นหรือไม่นั้น จะเป็นเรื่องที่คงจะมีการถกเถียงกันอีกนาน 

 

และถ้าหากเป็นประเด็นขึ้นมาก็จะมีความซับซ้อนอย่างเช่นกรณีที่การแก้ปัญหาในเมียนมา แต่ว่าเรื่องในทะเลจีนใต้ (น่านน้ำที่มีอาณาบริเวณครอบคลุมตั้งแต่ประเทศสิงคโปร์ไปจนถึงช่องแคบไต้หวัน รวมทั้งอ่าวตังเกี๋ยและอ่าวไทย อีกทั้งยังติดกับอินโดนีเซียด้วย) 

 

หรือในกรณีที่จะมีการลงทุน หรือการดำเนินการขอทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งในประเด็นนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่านอกจากการเยี่ยมเยียนส่วนตัวแล้ว จะมีอะไรเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ 

 

เมื่อถามถึงบทบาทของนายทักษิณในเรื่องการต่างประเทศในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งมีทั้งเรื่องเมียนมา เรื่องสมเด็จฮุนเซ็น ที่มีการตั้งคำถามว่ามีเรื่องการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนด้วยหรือไม่ ซึ่งในเวลานี้เรื่องดังกล่าวถูกบรรจุเป็นนโยบายของรัฐบาลด้วยแล้ว รศ.ดร.ปณิธานกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลายฝ่ายเป็นกังวล เรื่องจากในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้นมี รมว.ต่างประเทศเป็นผู้รับผิดชอบหลัก และอยู่ในระบบซึ่งความซับซ้อนจะมีน้อย

ซึ่งจะเห็นได้ว่าในหลายประเทศจะไม่นิยมการดำเนินการอย่างเป็นส่วนตัวมากนัก ยกเว้นว่าจะมีผู้แทนพิเศษเป็นผู้ดำเนินการอย่างเป็นทางการ หรือกึ่งทางการ ซึ่งในจุดนี้ก็จะมีเรื่องอื่น ๆ ซึ่งเข้าใจว่าในบรรยากาศของการแข่งขันของมหาอำนาจในภูมิภาค การเผชิญหน้ากัน และเรื่องของการเลือกตั้งในสหรัฐ ซึ่งจะมีผลต่อการค้าการลงทุนในกลุ่มอาเซียน ซึ่งจะมีการพูดคุยกันในหลายเวที

 

เรื่องเหล่านี้จะมีทั้งผลดี และมีข้อสังเกตอื่นที่ทำให้เกิดความซับซ้อนกับประเทศมหาอำนาจ กับประเทศในกลุ่มอาเซียนก็ได้ แต่เรื่องทั้งหมดเหล่านี้อยู่ที่ความตั้งใจที่จะทำให้โปร่งใส ทำให้เข้าระบบและมีความชัดเจน ซึ่งจะช่วยลดปัญหาลงไปได้

 

เมื่อถามว่าจะทำให้เกิดความทับซ้อนหรือไม่ รศ.ดร.ปณิธานกล่าวว่า ในเวลานี้สื่อมวลชน และโซเชียลมีเดียได้ตั้งคำถามแล้วถึงความสับสนว่าตกลงเป็นเรื่องอะไร หมายความว่าอย่างไร เรื่องเหล่านี้จะทำให้เกิดความคลุมเครือกับการดำเนินการของผู้ที่จะอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ และความรับผิดชอบ

ทำให้เกิดความรู้สึกคลุมเครือว่าใครดำเนินนโยบายอะไร ใครมีอำนาจอะไร ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาให้กับผู้ที่ทำงานตามปกติได้เช่นกัน



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า