
แฉพฤติกรรม มาเฟียจีนในเรือนจำไทย ‘เอกชัย’ แฉ ‘เสอจื้อเจียง’ วางตัวเป็นหัวหน้าผู้ต้องขังจีน มีความเป็นอยู่สุขสบาย ไม่เหมือนที่กล่าวอ้าง
ภายหลังจากที่ เสอจื้อเจียง หรือเสอหลุนข่าย ชาวจีนสัญชาติกัมพูชา ซึ่งถูกตำรวจไทยจับกุมตามหมายจับของตำรวจสากล ซึ่งเป็นไปตามคำร้องขอของรัฐบาลจีนซึ่งกล่าวหาว่าเขาเปิดเว็บพนันผิดกฎหมายทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นเจ้าพ่อแก๊งมิจฉาชีพออนไลน์หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ส่งจดหมายร้องเรียนผ่านทนายความของเขา กล่าวหาว่าเขาถูกเจ้าหน้าที่และนักโทษในเรือนจำของไทยทำร้ายทารุณจนเขาเดินไม่ได้ ต้องนั่งรถเข็น อีกทั้งยังถูกล่ามโซ่ขังเดี่ยว และถูกปฏิเสธไม่ให้เขาได้รับการรักษาจากอาการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง อีกทั้งยังถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนในอีกหลายกรณี ทำให้เขาหวาดกลัวว่าจะต้องเสียชีวิตใจเรือนจำ
เอกชัย หงส์กังวาน อดีตผู้ต้องขังในคดีความผิดตามมาตรา 112 ได้ออกมาเปิดเผยถึงมุมมองของเขาต่อเสอจื้อเจียง ซึ่งเคยถูกคุมขังในเรือนจำเดียวกันว่า
“เสอจื้อเจียง เคยอยู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ แดน 4 ในปี พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นช่วงที่ผมอยู่ด้วย
ผู้ต้องขังแดน 4 รู้จักเขาเป็นอย่างดี เขามีชื่อ “เสอ” เป็นชาวกัมพูชาเชื้อสายจีนที่ทำธุรกิจกาสิโน
ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เขาเป็นผู้มีอิทธิพลอันดับต้นๆ โชคดีที่เสี่ยโป้ (อภิรักษ์ ชัชอานนท์ ผู้ต้องขังความผิดฐาน ชักชวนเล่นพนันออนไลน์และฟอกเงิน) ถูกย้ายไปเรือนจำคลองเปรมตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2565 ไม่งั้นคงได้ตีกันตายไปข้าง
เขาเสมือนเป็นหัวหน้าผู้ต้องขังจีนในเรือนจำ เขาเป็นเพียงผู้ต้องขังไม่กี่คนที่ไม่ต้องตัดผมเกรียนเหมือนผู้ต้องขังทั่วไป
เขาไม่เคยต้องเข้าแถวเพลงชาติ, นับยอดผู้ต้องขัง หรือแม้แต่เข้าร่วมกิจกรรมใดๆในเรือนจำ
ทุกวันแก๊งของเขาจะยกชุดโต๊ะ-เก้าอี้ไปนั่งสุมหัวกันแถวลานข้างร้านสวัสดิการอันเสมือนเป็นพื้นที่อิทธิพลของตนเองในเรือนจำ โดยจ้างผู้ต้องขังไทยรับใช้ราวกับพระเจ้า บางครั้งก็เปิดลำโพงเพลงจีนเสียงดังลั่นแดนจนหัวหน้าแดน 4 ต้องปราม
ครั้งหนึ่งแก๊งจีนมีเรื่องกับผู้ต้องขังไทย พวกเขารอด แต่ผู้ต้องขังไทยที่มีเรื่องกับพวกเขาถูกสั่งขังกว่า 10 คนในห้องขังที่แออัดก่อนถูกที่พวกเขาจะถูกย้ายไปแดน 8
เหตุการณ์ครั้งนั้นสร้างความกังขาถึงผลการตัดสิน/ลงโทษผู้ต้องขังไทยในเรือนจำอย่างมาก
หลังเหตุการณ์ครั้งนั้นเสอยิ่งได้ใจ เขาเคยให้บุคคลภายนอกสั่งซื้อกาแฟ Nestlé กว่า 100 แพ็ค (แพ็คละ ฿320 โดย 1 แพ็คมี 2 ห่อ) แจกผู้ต้องขังไทย/จีนที่เข้าข้างแก๊งของพวกเขา
ในเรือนจำห่อกาแฟ Nestlé มีค่าเสมือนเงินสด ฿100 สามารถใช้จ่ายแทนเงินได้
อีกเหตุการณ์หนึ่งคือ ตอนที่แก๊งของเขาถูกลูบคม ผู้ต้องขังไทยรายหนึ่งแอบขโมยซิการ์/บุหรี่ของพวกเขา วันรุ่งขึ้นแก๊งของพวกเขา/ผู้ต้องขังไทยที่รับใช้พวกเขายกพวกจะไปรุมผู้ต้องขังไทยรายนั้นจนเกือบบานปลาย
สุดท้ายแก๊งของพวกเขาได้คืนของบางส่วน ว่ากันว่าพวกเขาสูญเสียของไปกว่า ฿100,000 ในครั้งนั้น
ล่าสุดมีข่าวเขาเขียนจดหมายออกจากเรือนจำคลองเปรมเพื่อร้องเรียนถึงการเลือกปฏิบัติต่อเขาในเรือนจำ และเรียกร้องไม่ขอถูกส่งตัวกลับไปจีน ผมจึงเพิ่งทราบ เขาโดนย้ายไปเรือนจำคลองเปรมตั้งปีที่แล้ว (พ.ศ. 2567)
ผมแปลกใจเล็กน้อย แต่ไม่เหนือความคาดหมายที่เขาถูกย้ายเรือนจำ เพราะช่วงหลังแก๊งของเขาเหิมเกริมขึ้นเรื่อยๆ”