นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่าขอสนับสนุนให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น ตามที่รัฐบาลประกาศแก้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติอย่างจริงจัง  เนื่องจากปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่มีมาอย่างยาวนานหลานสิบปี และมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างมาก และทำลายชีวิตเยาวชนที่เป็นอนาคตของประเทศ

สำหรับการบำบัดผู้ป่วยยาเสพติดนั้น เป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะต้นเหตุคือมีผู้เสพมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ยาเสพติดมีความต้องการมากขึ้น ปัญหาไม่ลดลงเสียที

เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภายใต้กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นต้นทางของการปราบปราม ต้องเข้มแข็งประสานการทำงานมากยิ่งขึ้น ไม่ปล่อยปละละเลยในการตรวจสอบ ตรวจจับและแก้ปัญหา ตั้งแต่ต้นน้ำ

ส่วนเรื่องการยึดทรัพย์เป็นสิ่งสำคัญมากที่จะตัดวงจรทั้งระบบการค้ายาเสพติด  ตนจึงขอฝากให้ตำรวจ ร่วมมือกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) เรื่องการติดตามยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดทั้งรายใหญ่รายย่อยอย่างจริงจัง เพื่อให้เป็นไปตามที่ได้ตั้งเป้าหมายตัวชี้วัด (KPIs) ดำเนินคดียึดทรัพย์ปีละ 6,000 คดี ซึ่งเชื่อว่าหากมีการบูรณากันทุกภาคส่วน ร่วมแก้ปัญหากันทั้งองคาพยพ จะเห็นผลชัดเจน

“ประชาชนร้องเรียนมายังสส.แต่ละพื้นที่จำนวนมาก ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางคนรู้เห็นเป็นใจ เป็นคนนำของกลางยาเสพติดออกไปวนขายให้กับผู้เสพในพื้นที่ในชุมชนหมู่บ้านเสียเองนั้น เรื่องนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติต้องไม่ปล่อยผ่าน ขอให้เร่งจัดการอย่างจริงจัง เด็ดขาด ไม่ละเว้น” นายธนกรกล่าว

นายธนกรกล่าวด้วยว่า การตั้งเป้าตัวชี้วัดยึดทรัพย์คดียาเสพติดปีละ 6,000 คดีทั่วประเทศ จะทำให้การแก้ปัญหาตัดวงจรและลดจำนวนผู้ขายลง และหากทำควบคู่กับการบำบัดรักษาผู้เสพให้ลด ละ เลิกได้ในที่สุด พร้อมกับการฝึกอาชีพหางานให้ทำ  ภายใต้การทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานอย่างจริงจังจะสามารถแก้ไขปัญหาได้เร็วกว่าวาระ 3 ปีของรัฐบาลชุดนี้ได้อย่างแน่นอน