Newsหมอบุญฉ้อโกงเงิน มูลค่าความเสียหาย 7,500 ล้าน ตำรวจนครบาลแถลงกรณีออกหมายจับหมดบุญและพวก

หมอบุญฉ้อโกงเงิน มูลค่าความเสียหาย 7,500 ล้าน ตำรวจนครบาลแถลงกรณีออกหมายจับหมดบุญและพวก

พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวกรณีที่ศาลออกหมายจับนายแพทย์บุญ วนาสิน และพวกรวม 9 คน ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน, สมคบกันฟอกเงิน และกระทำความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค เป็นต้น ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายกว่า 7,500 ล้านบาท

 

โดยในช่วงวันที่ 2 4 ก.พ. 2566 นายแพทย์บุญได้ทำการออกสื่อทั้งผ่านการลงเว็บไซต์ ให้สัมภาษณ์ผ่านสำนักข่าวรายใหญ่  เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตนเอง รวมถึงการบอกต่อผ่านคนรอบตัว และโบรคเกอร์ซึ่งเป็นตัวแทนในการแจ้งระดมทุน และกล่าวอ้างถึงการลงทุนที่น่าในใจ 5 โครงการประกอบด้วย

 

1 โครงการสร้างศูนย์มะเร็ง ย่านปิ่นเกล้า

2 โครงการเวลเนสเซ็นเตอร์ ย่านพระราม 3
3 โครงการโรงพยาบาลในลาว

4 โครงการโรงพยาบาลในเวียดนาม
5 โครงการเทคโนโลยีสารสนเทศทางการแพทย์

ซึ่งโครงการทั้งหมดนั้น อ้างว่าจะมีการให้ผลตอบแทนสูงกว่าสถาบันการเงิน ซึ่งทำให้ประชาชนที่ได้รับฟังหลงเชื่อ และเข้ามาร่วมลงทุนผ่านการทำสัญญากู้ยืมเงิน ซึ่งสัญญาว่าจะมีการให้ดอกเบี้ย และมีการจ่ายเช็คให้กับผู้มาลงทุน เป็นการคืนเงิน และเป็นดอกเบี้ยล่วงหน้าด้วยเช็ค 

 

ซึ่งมี นพ. บุญเป็นผู้ลงนามในเช็ค และมีภรรยาและลูก นพ. บุญเป็นผู้ค้ำประกันเช็ค เพื่อเป็นการยืนยันว่าจะร่วมเป็นลูกนี้ด้วย หากว่าถูกฟ้อง

 

ในช่วงแรก บางคนที่ได้รับเงินเป็นบางส่วน แต่หลังจากนั้นไม่มีการจ่ายเงินเลย อีกทั้งไม่คืนเงินต้น และเมื่อผู้เสียหายนำเช็คไปขึ้นเงิน เมื่อถึงกำหนดการชำระ แต่ถูกธนาคารปฎิเสธการจ่ายเงิน

 

และเมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา นพ. บุญได้เดินทางออกนอกประเทศไปฮ่องกง ซึ่งมีพฤติการณ์ที่เข้าข่ายว่าหลบหนี ทางตำรวจได้ทำการสืบสวนแล้วพบว่าโครงการทั้งหมดที่ถูกกล่าวอ้างถึงนั้นไม่มีอยู่จริง และพบว่าผู้เสียหายถูกเบียดบังเอาทรัพย์สินทั้งหมดไป

 

เมื่อมีการทำหนังสือมายัง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น. – พล.ต.ท. สยาม บุญสม) ผบช.น. เห็นว่าเรื่องนี้มีความผิดปกติ ไม่น่าจะเพียงการเข้าข่าวการกระทำความผิดตาม พรบ.เช็ค แต่น่าจะเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนด้วย งให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาเพื่อการสืบสวนในคดีนี้โดยเฉพาะ เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ที่ผ่านมา

 

จากการสอบสวนพบว่า นพ. บุญเป็นตัวการในการออกโครงการ, สัญญา และการแบ่งปันผลประโยชน์ โดยเชื่อว่าผู้ที่ร่วมค้ำประกัน ซึ่งมีภรรยาและลูก รวมไปถึงเลขา 2 คน จะได้รับผลประโยชน์ด้วย และโบรคเกอร์ผู้ชักชวน จะได้ส่วนแบ่งจากการมาลงทุน

 

จึงทำเรื่องถึงศาลอาญาในการขอออกหมายจับ โดย นพ. บุญถูกตั้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน

 

ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค และธนาคารปฏิเสธไม่ให้ใช้เงินตามเช็คนั้น ส่วนรายอื่นนั้นถูกตั้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน 

 

ทั้งนี้ศาลได้อนุมัติหมายจับแล้ว และจับได้แล้ว 6 ราย ส่วนอีก 3 รายซึ่งประกอบด้วย นพ. บุญ ซึ่งหลบหนีไปต่างประเทศ และภรรยาและลูก ซึ่งในขณะนี้กำลังติดตามตัวอย่างเร่งด่วน

 

สำหรับโครงการต่าง ๆ ที่ถูกอ้างถึงนั้น ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีอยู่จริง และขณะนี้กำลังดำเนินการตรวจสอบสัญญา ทรัพย์สินทั้งหมดที่ได้ทำการยึดมาแล้วอยู่ และตรวจสอบพบว่า นพ. บุญมีรถยนต์ทั้งสิ้น 19 คัน แต่ตรวจหาไม่พบสักคัน กำลังติดตามอยู่ว่าถูกนำไปซุกซ่อนอยู่ที่ใด ที่ดินทั้ง 21 แปลงนั้นกำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่า ได้มาก่อนปี 2566 หรือตั้งแต่ที่มีการโฆษณาชวนเชื่อในเรื่องนี้ไม่

 

คดีนี้ถือเป็นคดีที่มีความยุ่งยากซับซ้อน ที่มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก และผู้เสียหายแต่ละรายได้รับการทำสัญญาที่แตกต่างกันไป ซึ่งเข้าเงื่อนไขการดำเนินการสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ซึ่งทางตำรวจนครบาลจะดำเนินการรวบรวมหลักฐานก่อนที่จะมีการดำเนินการในลำดับต่อไป

 

สำหรับ นพ. บุญที่หลบหนีไปต่างประเทศนั้น ได้มีการประสานงานไปยังกระทรวงต่างประเทศ และกองการต่างประเทศ (ตท.) เพื่อดำเนินการจับกุม และขณะนี้สืบทราบมาว่า นพ. บุญได้เดินทางจากฮ่องกงไปยังจีนแล้ว และสำหรับการฟอกเงินนั้น กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการสอบสวนอยู่




เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า