หมอมนูญตั้งข้อสังเกต โรคที่ควรระวังวัคซีน mRNA พร้อมเตือนว่าไม่ควรฉีดวัคซีน mRNA เข็มต่อไป
นพ. มนูญ ลีเชวงวงศ์ ประธานทุนวิจัยวัณโรคดื้อยา ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ศิริราชมูลนิธิ โพสต์เฟสบุ๊คกล่าวถึงอาการป่วยของผู้หญิงอายุ 32 ปี ที่โดยปกติแล้วมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัว และไม่ได้ใช้ยาประจำ
ได้รับการฉีดวัคซีน แอสตรา เซเนกา ในเดือน มิ.ย.และ ก.ย. 2564 2 เข็ม และวัคซีนไฟเซอร์ในเดือน ก.พ.และ ก.ค. 2565 และในเดือน ต.ค. 2565 หรือ 3 เดือนหลังฉีดไฟเซอร์เข็ม 2 เริ่มมีอาการป่วยตามผิวหนัง ทั้งที่มือที่เป็นตุ่มนูนแดง ผิวที่ฝ่ามือหนาขึ้น หยาบกร้านและแห้งแตกเป็นร่อง มีผื่นที่คอและหน้าอก ไม่มีอาการทางกล้ามเนื้อ ฟังปอดผิดปกติที่ปอดด้านซ้ายล่าง
ผลการตรวจเอ็กซ์เรย์ เห็นฝ้าขาวที่ปอดซ้ายด้านล่าง และสมรรถภาพปอดพบความจุของปอดลดลง และจากผลการเจาะเลือด พบค่าอักเสบของเลือดสูงเล็กน้อย
ซึ่งวินิจฉัยได้ว่า ความผิดปกติทางผิวหนังทั้งหมดร่วมกับปอดอักเสบ และผลเลือด Anti-MDA5 บวก ไม่มีกล้ามเนื้ออ่อนแรง เข้ากับได้กับโรคภูมิต้านตนเองผิวหนังและกล้ามเนื้ออักเสบชนิดไม่มีอาการทางกล้ามเนื้อ Clinically Amyopathic Dermatomyositis (CADM) ให้ยาสเตียรอยด์ และยากดภูมิคุ้มกันไมโคฟีโนเลต (mycophenolate) ผื่นลดลง อาการทางปอดดีขึ้น
โรคภูมิต้านตนเองผิวหนังและกล้ามเนื้ออักเสบกำเริบหลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 3 ต้องปรับเพิ่มขนาดยาสเตียรอยด์ และไมโคฟีโนเลต เพิ่มยาไฮดรอกซีคลอโรควิน (hydroxychloroquine) หลังปรับยา อาการดีขึ้นช้าๆ ผิวหนังดีขึ้น ไม่เหนื่อย
ทั้งนี้ผู้ป่วยรายนี้ ติดเชื้อไวรัสโควิดครั้งแรกวันที่ 5 ธค. 2566 มีอาการน้อยมาก ได้ยาโมลนูพิราเวียร์ หายเร็วทั้งๆที่กินยากดภูมิคุ้มกัน ไม่มีอาการหลังการติดเชื้อไวรัสโควิด ค่อยๆปรับลดยากดภูมิคุ้มกันลงเรื่อยๆ ผิวหนังกลับมาเป็นปกติ เอกซเรย์ปอด และคอมพิวเตอร์ปอดดีขึ้นเกือบปกติ ทำให้สมรรถภาพปอดความจุของปอดกลับมาปกติ
วันที่ 17 ธ.ค. 2567 หลังจากรักษา 2 ปีกว่า ได้หยุดยากดภูมิคุ้มกันทุกตัวเหลือแต่ไฮดรอกซีคลอโรควิน กิน 1 เม็ดวันเว้นวัน ค่าอักเสบของเลือดปกติ ESR 8, hs-CRP 0.4
นพ. มนูญกล่าวถึงอาการของผู้ป่วยรายนี้ว่า “โรคภูมิต้านตนเองที่เรียกว่า Anti-MDA5 antibody positive dermatomyositis มีมาเกือบ 20 ปีแล้วเป็นโรคหายาก พบน้อยมากๆ หลังการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด mRNA เป็นพันล้านเข็ม มีรายงานการฉีดวัคซีน mRNA ทำให้เกิดโรคนี้ทั่วโลกประมาณ 50 ราย
คนไข้รายนี้น่าจะเป็นผู้ป่วยรายแรกในประเทศไทย เริ่มมีอาการ 3 เดือนหลังฉีดวัคซีน mRNA เข็มที่ 2 และอาการกำเริบในเวลาเพียง 5 วันหลังฉีดเข็มวัคซีน mRNA เข็มที่ 3 เกิดปอดอักเสบรุนแรงและรวดเร็ว การฉีดวัคซีน mRNA กระตุ้นให้คนบางคนที่มีกรรมพันธุ์ (genetic predisposition)ให้สร้างภูมิต้านตนเองทำให้เกิดโรคนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าวัคซีน mRNA กระตุ้นการสร้างภูมิต้านตนเองอย่างไร
ผมขอย้ำว่า วัคซีนป้องกันโควิด mRNA ปลอดภัยสำหรับคนทั่วไป โรคภูมิต้านตนเองที่เรียกว่า Anti-MDA5 antibody positive dermatomyositis เกิดขึ้นน้อยมากๆหลังการฉีดวัคซีน mRNA