แถลงโครงการ ดิจิทัล วอลเล็ต ครั้งที่ 1 เริ่มลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” ระหว่างวันที่ 1 ส.ค. – 15 .ก.ย. นี้
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง แถลงความคืบหน้าของโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ครั้งที่ 1 ว่ารัฐบาลได้มีการพิจารณารายละเอียดอย่างรอบคอบแล้ว สอดคล้องตามบทบัญญัติของรัฐธธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ข้อกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการพิจารณาความเห็นของหน่วยงานต่าง ๆ อย่างรอบคอบและรัดกุม มีความพร้อมที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจแล้ว
โครงการนี้มีวัตถุประสงที่สำคัญเพื่อส่งเสริมให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ และช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชน ส่งเสริมให้ประชาชนและชุมชนมีความเข้มแข็งในด้านเศรษฐกิจ สามารถพึ่งพาตนเองได้ สร้างและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ
ก่อให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจ 4 ลูก คือ
1 การใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้าขนาดเล็ก
2 การใช้จ่ายระหว่างร้านค้าขนาดเล็ก กับร้านค้าขนาดใหญ่
3 การใช้จ่ายระหว่างร้านค้าขนาดใหญ่ด้วยกัน เพื่อต่อยอดกำลังซื้อ การบริโภค หรือสร้างโอกาสในการลงทุนเพื่อประกอบอาชีพ
4 พลังการใช้จ่ายของประชาชนที่จะก่อให้เกิดการหมุนเวียนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ที่จะช่วยฟื้นฟู และสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวม
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช. คลัง ร่วมกันแถลงถึงรายละเอียดของโครงการ โดยยืนยันว่ารัฐบาลมาหล่งเงินมากเพียงพอที่จะดำเนินโครงการ ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมาย 50 ล้านคน แต่และมีคนเข้าร่วมโครงการ 90% โดยประชาชนสามารถลงทะเบียนได้ผ่านแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” โดยผู้มาใช้สิทธิต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1 มีชื่อในทะเบียนบ้าน
2 ถือสัญชาติไทย
3 มีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ปิดรับลงทะเบียน 15 ก.ย. 2567
4 มีรายได้ไม่เกิน 840,000 บาท ในปีภาษี 2566
5 ไม่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันเกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 31 มี.ค. 2567 โดยนับเฉพาะเงินฝากในรูปแบบสกุลเงินบาท
6 ไม่อยู่ในระหว่างการต้องโทษจำคุกในเรือนจำ
7 ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการโครงการอื่น ๆ ของรัฐ
8 ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ
และมีกำหนดการณ์ลงทะเบียน โดยแบ่งได้ 2 กลุ่มดังนี้
1 ผู้มีสมารท์โฟน ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ได้ระหว่างวันที่ 1 ส.ค. – 15 ก.ย. 2567
2 ผู้ไม่มีสมารท์โฟน ลงทะเบียนได้ระหว่างวันที่ 16 ก.ย. – 15 ต.ค. 2567 ส่วนรายละเอียดกำลังอยู่ในระหว่างการเตรียมการ
สำหรับสินค้าที่ไม่สามารถซื้อขายผ่านโครงการนี้ได้ (Negative List) ประกอบด้วยสลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม ผลิตลิตภัณฑ์กัญชาและกระท่อม บัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธธรรมชาติ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือสื่อสาร แต่ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์อาจจะปรับปรุงรายการสินค้าเพิ่มเติมได้