
ไม่ต้องช่วยเหลือและไม่รับผู้ลี้ภัย! เดอซานติส ผู้สมัครชิง ปธน.สหรัฐฯ แสดงจุดยืนชัดเจน ไม่เห็นด้วยกับการหาน้ำสะอาดและรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ เหตุคนเหล่านั้นมีวัฒนธรรมที่เป็นภัยต่อยิวและอเมริกัน
รอน เดอซานติส (Ron DeSantis) ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า สหรัฐอเมริกาไม่ควรที่จะเปิดรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ ที่ลี้ภัยออกจากฉนวนกาซา เหตุเพราะพวกเขามีทัศนคติที่ “ต่อต้านชาวยิว” (antisemitic)
นอกจากนี้ เดซานติสยังแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของสหประชาชาติ ที่ให้ทางอิสราเอลจัดหาน้ำสะอาดและเครื่องอุปโภคให้กับประชาชนจำนวน 2.3 ล้านรายในฉนวนกาซาอีกด้วย
ท่าทีของเดอซานติส สวนทางกับท่าทีของรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดปัจจุบันและรวมถึง สส.และ สว.จากพรรครีพับลิกันหลายราย ที่แยกแยะระหว่างประชาชนชาวปาเลสไตน์และกลุ่มฮามาส (Hamas) แม้ว่ากลุ่มติดอาวุธดังกล่าวจะเข้าปกครองพื้นที่กาซามาตั้งแต่ปี 2007 ก่อนจะยิงจรวดถล่มอิสราเอลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ตาม
เดอซานติส ขยายความแผนการของเขาให้ฟังว่า เขามองว่าการที่อิสราเอลไม่จัดหาน้ำและสิ่งจำเป็นต่างๆ ให้แก่ประชาชนในกาซา จะทำให้กลุ่มฮามาสยอมปล่อยตัวประกันที่ถูกจับไป
“ตอนนี้เรามีชาวอิสราเอลและชาวอเมริกันที่ถูกจับเป็นตัวประกัน แต่ผมไม่คิดว่าทางอิสราเอลมีสัญญาผูกพันแต่ประการใดในการที่จะต้องจัดหาน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับชาวปาเลสไตน์ ในระหว่างที่ตัวประกันเหล่านั้นถูกจับกุมตัวอยู่ และกลุ่มฮามาสน่าจะปล่อยตัวประกันเหล่านี้ก่อนที่จะมีการเจรจาใดๆ เกิดขึ้นด้วย” เดอซานติส กล่าว
ด้านนิกกี้ ฮาเลย์ (Nikki Haley) อดีตทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติให้ความเห็นสวนทางกับเดอซานติส โดยระบุว่า “มีชาวปาเลสไตน์จำนวนมากที่อยากเป็นอิสระจากการปกครองของกลุ่มก่อการร้าย และชาวอเมริกันก็มีความเข้าอกเข้าใจในข้อเท็จจริงที่ว่าคุณสามารถแยกประชาชนออกจากกลุ่มก่อการร้ายได้ และนั่นเป็นสิ่งที่พวกเราต้องทำ”
ซึ่งเดอซานติสได้ให้เหตุผลถึงการปฏิเสธรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ที่แย้งกับทัศนคติของฮาเลย์ว่า สิ่งนี้เป็นเรื่องของ “วัฒนธรรม” คือแม้ว่าชาวปาเลสไตน์ทุกคนจะไม่ใช่สมาชิกของกลุ่มฮามาส แต่การที่กลุ่มฮามาสปกครองพื้นที่กาซาได้ ก็เพราะประชาชนชาวปาเลสไตน์ให้การสนับสนุนและเลือกฮามาสขึ้นมา
เขายังได้อธิบายต่อว่า มันมี “วัฒนธรรมที่เลวร้าย” (toxic) อยู่ในกาซา “ผมคิดว่าถ้าพวกเรานำผู้ลี้ภัยจำนวนมากที่มีความคิดเหล่านั้นเข้ามาในสหรัฐอเมริกา มันจะทำให้เกิดการเพิ่มแนวคิดต่อต้านยิวขึ้นในประเทศนี้ และผมคิดว่ามันน่าจะทำให้เกิดแนวคิดต่อต้านอเมริกา (anti-Americanism) ในประเทศนี้ด้วย”