กรมปศุสัตว์จ่อ เข้าตรวจสอบ ENP เพิ่ม หลังจากที่ได้ตรวจสอบเบื้องต้นไปแล้ว
“กรมปศุสัตว์” จะเข้าตรวจสอบปางช้าง ENP เพิ่มเติม หลังจากที่ได้เข้าแสวงหาข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา
น.สพ. บุญญกฤช ปิ่นประสงค์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า สัปดาห์ที่แล้ว ได้มอบหมายให้สำนักงานปศุสัตว์พื้นที่เข้าแสวงหาข้อเท็จจริงเบื้องต้นที่ปางช้าง Elephant Nature Park หรือ ENP อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ตามที่สมาคมสหพันธ์ช้างไทยร่วมกับผู้แทนกลุ่มผู้ประกอบการปางช้าง และกลุ่มคนเลี้ยงช้างเข้าให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร
โดยตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการจัดสวัสดิภาพช้างภายในปางว่า ดำเนินการอย่างเหมาะสมหรือไม่เนื่องจากห้วงที่เกิดเหตุน้ำท่วมเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2567 พบช้างจำนวนหนึ่งถูกขังอยู่ในคอก ไม่มีการขนย้ายออกมา แม้จะมีการแจ้งเตือนถึงความเสี่ยงที่จะเกิดอุทกภัยล่วงหน้า
เมื่อเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์พื้นที่ได้เข้าแสวงหาข้อเท็จจริงเบื้องต้นและรายงานกลับมายังกรมปศุสัตว์แล้ว จึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อกำหนดประเด็นเข้าตรวจสอบเพิ่มเติม
วันนี้ (12 พฤศจิกายน 2567) เจ้าหน้าที่จากกองสวัสดิภาพสัตว์และสัตวแพทย์บริการจะเข้าตรวจสอบที่ปาง ENP ตามประเด็นที่ยังมีข้อสงสัยเพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วน โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 และพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม
รองอธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 จะเดินทางไปตรวจสอบด้วยตนเอง ยืนยันว่า จะดำเนินการอย่างโปร่งใส เป็นธรรม และยึดหลักกฎหมายที่กรมปศุสัตว์กำกับดูแลเพื่อให้สัตว์น้อยใหญ่ได้รับความคุ้มครองทุกตัว
สำหรับปางช้าง ENP ที่ดำเนินการในนามบริษัทได้รับใบอนุญาตผู้ผลิตสินค้าเกษตรตามมาตรฐานบังคับ เรื่อง การปฏิบัติที่ดีสำหรับปางช้าง มกษ. 6413-2564 และได้รับใบรับรองมาตรฐานปางช้างจากกรมปศุสัตว์แล้ว เป็นปางช้างขนาดใหญ่ ประเภท ปางช้างแบบท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
ส่วนปางช้างอีกส่วนหนึ่งซึ่งดำเนินการในนามมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อมได้ยื่นคำขอใบอนุญาตผู้ผลิตสินค้าเกษตรตามมาตรฐานบังคับและขอรับรองมาตรฐานการปฏิบัติที่ดีสำหรับปางช้างมาแล้ว เดิมเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 กรมปศุสัตว์จะเข้าไปตรวจสอบตามที่มูลนิธิยื่นคำขอมา แต่เกิดอุทกภัยเสียก่อน