
นายดนุพร ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวตอบโต้การอภิปรายของฝ่ายค้านนำโดยพรรคก้าวไกลที่ระบุว่า การจัดงบปี 2568 เป็นแบบ “เจ๊งไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้”
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท วาระแรก นายดนุพร ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายตอบโต้กรณีที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายโจมตีรัฐบาลว่าจัดงบเป็นเป็ดง่อย กู้เงินจนชนเพดาน
นายดนุพรกล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับ 6 พันธนาการที่เป็นกับดักขังประเทศไทยเอาไว้ ซึ่งประกอบด้วย
1 การแข่งขันในตลาดโลก ซึ่งประเทศไทยมีอัตราการเติบโตของ GDP เพียง 1.9% ทำให้ประเทศไทยเป็นเป็ดง่อยตามที่นายจุรินทร์กล่าว แต่นี่เป็นปัญหาที่เกิดตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว และรัฐบาลของนายเศรษฐาพยายามจัดงบประมาณเพื่อรักษาเป็ดตัวนี้อยู่
2 สังคมไร้ทางถอย เพราะที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้ดูแลเรื่องปัจจัย 4 ให้แก่ประชาชนได้ดีมากเพียงพอต่อการดำรงชีพ
3 ประเทศไทยไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง
4 กับดักความกลัวในอดีต
5 ที่ผ่านมาเน้นแต่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ได้เน้นบูรณาการทุกภาคส่วนในระยะยาว
6 ความมั่นคงในชีวิตมนุษย์ยังคงทรุดโทรม
ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลนี้ได้พยายามแก้ไขปัญหาเพื่อการปลดล็อกพันธนาการทั้ง 6 ไปแล้ว และจะทำต่อเนื่องผ่านการจัดสรรงบประมาณประจำปี 2568 นี้ด้วย
“ขอให้สบายใจเรื่องการจัดสรรงบ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์รักษาระเบียบวินัยการเงินการคลัง รัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณอย่างระมัดระวัง และวลีที่ฝ่ายค้านบอกว่าจัดงบ 68 แบบเจ๊งไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้ จึงไม่เป็นความจริง ประเทศไทยเจ๊งไม่ได้ รัฐบาลอาจจะยุบสภา นายกฯ อาจลาออก แต่ประเทศไทยเจ๊งไม่ได้
ซึ่งผมไปดูความหมายของคำว่า เจ๊งฉบับพจนานุกรมราชบัณฑิตยสภา หมายความว่า การเลิกกิจการแบบหมดทุน แต่ประเทศไทย ไม่มีหมดทุน ประเทศไทยเจ๊ง ไม่ได้ประเทศไทย ก็ต้องเดินต่อ แม้จะยุบสภาแล้ว แต่นายกฯ ยังต้องอยู่รักษาการ
นอกจากนี้ คำว่า เจ๊งยังหมายถึงสิ้นสุด หากนึกไม่ออก ผมยกตัวอย่างง่ายๆ คือถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค นี่แหละคือสิ้นสุดหรือเจ๊งของจริง ขอให้ทุกคนมาช่วยกัน สร้างประเทศไทยให้เป็นเสือตัวที่ 5 ของโลกอย่างสง่างาม” นายดนุพร กล่าว