ขอให้แยกแยะ ระหว่างเกษตรกรกับนายทุน ‘ธรรมนัส’ ชี้กรณีป่าทับลาน เป็นกรณีพิพาทระหว่างรัฐกับชาวบ้าน ค้างคามาหลายรัฐบาล ขอทุกฝ่ายใจเย็น

ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมว. เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน เรื่อง การเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ออกจากการเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เพื่อนำไปเป็นที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าขั้นตอนดังกล่าวไม่ได้อยู่ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ 

อีกทั้งยังกล่าวว่ากรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในรัฐบาลหลายยุค จนมาได้ข้อสรุปในรัฐบาลที่แล้ว เมื่อปี 2566 โดย ครม. เห็นชอบให้กรมอุทยานแห่งชาติ ฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้ดำเนินการ และขอให้เข้าใจว่า การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ ณ ขณะนี้นั้น ไม่ได้เกิดขึ้นในรัฐบาลปัจจุบัน

ตนเองกำกับดูแล สปก. ซึ่งรับนโยบายต่อมาจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ซึ่งหาก สคทช. เป็นชอบอย่างไร จะนำเสนอต่อ ครม. และเมื่อเห็นชอบ ให้ สปก. ไปจัดสรรที่ดินให้เกษตรกรได้ใช้ทำกิน ก็จะนำไปปฏิบัติ

เมื่อถูกถามถึงการถือครองที่ดินของนายทุน บนพื้นที่ทับซ้อนกว่า 150,000 ไร่  ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า กรมอุทยานฯ มีคณะกรรมการตรวจสอบ และจำแนกชัดเจนว่าจุดใดมีประชาชนร้องเรียนมา ไม่ใช่เหมารวมทั้งหมด ซึ่งนำไปสู่การประชุมของคณะกรรมการนโยบายป่าชุมชน ซึ่งต้องมีการจำแนกให้ชัดเจนว่าจุดใดควรกำหนดให้เป็นป่าอนุรักษ์ จุดใดเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านอาศัยอยู่ก่อน

ขอให้เข้าใจว่ากรณีนี้เป็นข้อพิพาทระหว่างรัฐกับประชาชน ซึ่งมีมาตรการและขั้นตอนอยู่ เพราะฉะนั้นขอให้ใจเย็น ๆ เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์ ส่วนจะใช้แผนที่ใดในการแบ่งเขตนั้น ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่าหน่วยงานผู้ปฏิบัติจะต้องนำมติผ่าน สคทช. เข้า ครม. 

เมื่อถูกถามถึงพื้นที่ทับซ้อนระหว่าง สปก. กับกรมอุทยานในหลายพื้นที่ ร.อ. ธรรมนัสยืนยันว่า กระทรวงเกษตรจะดำเนินการตามมติ ครม. เห็นชอบอย่างไร ก็จะนำไปปฏิบัติตามนั้น แต่ในขณะนี้เป็นกระบวนการของกระทรวงทรัพย์ฯ 

หลังจากที่กรมอุทยานฯ เห็นชอบ จุดในเป็นจุดที่นายทุนบุกรุก ก็จะดำเนินคดีอาญา ดังนั้นขอให้แยกแยะระหว่างผู้กระทำความผิดกฎหมาย กับปัญหาของชาวบ้าน ขอให้แยกแยะระหว่างเกษตรกร กับกลุ่มนายทุน และสำหรับกรณีที่เกิดขึ้น ไม่ใช่การงัดข้อกับกระทรวงเกษตรฯ กับกระทรวงทรัพย์ฯ เพราะมีการหารือกันตลอด ตนเองก็หารือกับทุกฝ่ายได้ ไม่มีปัญหา