
โคลอมเบียยอมแล้ว พร้อมส่งเครื่องบินรับผู้อพยพ หลังถูกทรัมป์บีบขึ้นภาษีเป็น 25-50% ภายในหนึ่งสัปดาห์
โคลอมเบียยอมจำนนต่อแรงกดดันจากสหรัฐฯ กลับลำยอมส่งเครื่องบินของประธานาธิบดีไปรับพลเมืองโคลอมเบียที่ถูกเนรเทศจากสหรัฐฯ
เมื่อวันอาทิตย์ (26 ม.ค.) ประธานาธิบดี กุสตาโว เปโตร แห่งโคลอมเบีย ประกาศว่า โคลอมเบียจะปฏิเสธรับเครื่องบินทหารสหรัฐฯ 2 ลำที่บรรทุกผู้อพยพกลับประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายกวาดล้างผู้อพยพของรัฐบาลชุดใหม่ เว้นแต่สหรัฐฯ จะปฏิบัติต่อผู้อพยพอย่างมีศักดิ์ศรี
แต่หลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ตอบโต้อย่างรวดเร็วและรุนแรง โดยออกคำสั่งให้รัฐบาลใช้มาตรการลงโทษโคลอมเบีย ทั้งการขึ้นภาษีสินค้าโคลอมเบียในอัตรา 25% และจะเพิ่มเป็น 50% ภายในหนึ่งสัปดาห์, การห้ามพลเมืองโคลอมเบียเดินทางเข้าประเทศ และการถอนวีซาของเจ้าหน้าที่โคลอมเบีย
รัฐบาลโคลอมเบียกลับลำยอมรับพลเมืองของตนเองกลับประเทศ โดยประกาศว่า เครื่องบินของประธานาธิบดีเปโตรจะถูกส่งไปรับพลเมืองโคลอมเบียที่ถูกสหรัฐฯ เนรเทศ
“รัฐบาลโคลอมเบียภายใต้การนำของประธานาธิบดี กุสตาโว เปโตร ได้จัดเตรียมเครื่องบินของประธานาธิบดีเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพลเมืองโคลอมเบียที่กำลังจะเดินทางเข้ามาในประเทศในช่วงเช้าของวันนี้” สำนักงานประธานาธิบดีโคลอมเบีย กล่าวในแถลงการณ์
ปธน.เปโตร ในวันนี้ (27 ม.ค.) ได้โพสต์ประณามการบีบบังคับของสหรัฐฯ ผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า “คุณสามารถใช้พลังทางเศรษฐกิจและความเย่อหยิ่งของคุณเพื่อพยายามก่อรัฐประหารได้ เช่นเดียวกับที่คุณทำกับอัลเลนเด”
(ประธานาธิบดีเขียนโดยอ้างถึงการรัฐประหารทางทหารที่ได้รับการสนับสนุนจากซีไอเอในชิลีเมื่อปี 1973 ซึ่งส่งผลให้ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเสียชีวิต ประธานาธิบดีซัลวาดอร์ อาลเลนเด)
“ผมจะยืนหยัดตามหลักการของผม “ผมเคยถูกทรมานแต่ก็อดทนและผ่านพ้นมันมาได้… ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน คุณจะไม่มีวันครอบงำเราได้” พร้อมกับให้คำมั่นว่าโคลอมเบียจะเรียกเก็บภาษีสินค้าของอเมริกาเพื่อตอบโต้ข้อจำกัดทางเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ
ด้าน แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว ออกแถลงการณ์ในเวลาต่อมา โดยระบุว่า “โคลอมเบียตกลงตามข้อเรียกร้องทั้งหมดของประธานาธิบดีทรัมป์ รวมถึงการยอมรับคนต่างด้าวผิดกฎหมายชาวโคลอมเบียที่ถูกส่งกลับบนเครื่องบินทหารสหรัฐฯ โดยไม่มีข้อจำกัดหรือการล่าช้าใดๆ”
พร้อมกับระบุว่า มาตรการภาษีศุลกากรที่ร่างขึ้น “จะถูกเก็บไว้ไว้และจะยังไม่มีการลงนาม เว้นแต่โคลอมเบียจะไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงนี้” ส่วนข้อจำกัดด้านวีซ่าและการตรวจสอบชายแดนและศุลกากรที่เข้มงวดยิ่งขึ้นจะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป “จนกว่าเครื่องบินลำแรกที่บรรทุกผู้ถูกเนรเทศชาวโคลอมเบียจะกลับสหรัฐ”
นโยบายผู้อพยพเป็นหนึ่งในแก่นแกนของการหาเสียงของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 มค. ทรัมป์ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติที่ชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก เพื่อรับมือผู้อพยพผิดกฎหมาย รวมถึงได้ส่งทหารประจำการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ชายแดน