
โลกร้อนกระทบกิมจิ ทำคุณภาพและผลผลิตลด หวั่นอนาคตพื้นที่เพาะปลูกผักกาดขาวลดลงมหาศาล ด้านนักวิทย์ฯ เตรียมพัฒนาสายพันธุ์รับมือ
กิมจิ เมนูชื่อดังของเกาหลีกำลังได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยนักวิทยาศาสตร์ เกษตรกร และผู้ผลิต ต่างกล่าวว่า คุณภาพและปริมาณผลผลิตของผักกาดขาวที่ใช้ทำอาหารยอดนิยมนี้กำลังลดลงเนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น
ผักกาดขาดเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศที่เย็น และมักปลูกในพื้นที่สูงในฤดูร้อนซึ่งเป็นฤดูเพาะปลูกสำคัญ
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า พื้นที่ปลูกผักกาดขาวในพื้นที่สูงในปีที่แล้วอยู่ที่ 3,995 เฮกตาร์ เทียบกับ 8,796 เฮกตาร์ เมื่อ 20 ปีก่อน สำนักงานพัฒนาชนบทแห่งเกาหลีใต้ ระบุว่า เมื่อพิจารณาสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้คาดการณ์ได้ว่า พื้นที่เพาะปลูกจะลดลงอย่างมากใน 25 ปีข้างหน้า เหลือเพียง 44 เฮกตาร์ และจะไม่มีการปลูกผักกาดขาวในพื้นที่สูงภายในปี 2090
นักวิจัยระบุว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้น ฝนตกหนักแบบคาดเดาไม่ได้ และแมลงศัตรูพืชที่ควบคุมได้ยากขึ้นในช่วงฤดูร้อนที่อบอุ่นและยาวนานขึ้น เป็นสาเหตุที่ทำให้ผลผลิตผักกาดขาวหดตัว นอกจากนี้ เชื้อราที่ทำให้พืชเหี่ยวเฉาก็เป็นปัญหาที่สร้างความยุ่งยากให้กับเกษตรกรเป็นอย่างยิ่ง
ปัจจัยดังกล่าวข้างต้นล้วนสร้างความกังวลให้กับอุตสาหกรรมกิมจิในประเทศ ซึ่งขณะนี้กำลังได้รับผลกระทบจากกิมจินำเข้าราคาถูกจากจีน
ข้อมูลศุลกากรที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ (2 ก.ย.) เปิดเผยตัวเลขการนำเข้ากิมจิ ณ สิ้นเดือน ก.ค. สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 98.5 ล้านดอลลาร์ (3,370 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 6.9% โดยเกือบทั้งหมดนำเข้าจากจีน
จนถึงขณะนี้ รัฐบาลได้ใช้พื้นที่จัดเก็บที่ควบคุมอุณหภูมิจำนวนมากเพื่อป้องกันราคาพุ่งสูงและปัญหาการขาดแคลน ขณะที่นักวิทยาศาสตร์กำลังเร่งพัฒนาพันธุ์พืชที่สามารถเติบโตได้ในภูมิอากาศที่อบอุ่นขึ้น และทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของปริมาณน้ำฝนและการติดเชื้อได้ดีกว่า
(1 ดอลลาร์ = 34.21 บาท)