
ธุรกิจจีนลดการลงทุนในสหรัฐฯ Financial Times ชี้สัมพันธ์การค้าสหรัฐ-จีนที่ย่ำแย่ เป็นเหตุให้ธุรกิจจีนในสหรัฐลดระดับการลงทุน
ธุรกิจจีนลดการลงทุนในสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ย่ำแย่ลงและเงื่อนไขทางธุรกิจที่ท้าทาย financial times (FT) รายงานเมื่อวันอังคาร (7 พ.ย.) โดยอ้างข้อมูลจาก สถาบันวิจัยโรเดียม กรุ๊ป (Rhodium Group)
รายงานระบุว่า การลงทุนของธุรกิจจีนในสหรัฐฯ ลดฮวบเหลือเพียง 2.5 พันล้านดอลลาร์ (ราว 8.89 หมื่นล้านบาท) ในปี 2565 ซึ่งต่ำที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ และต่ำกว่าสถิติที่ 4.8 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 1.7 ล้านล้านบาท) ในปี 2559 มาก ขณะเดียวกัน กิจกรรมทางธุรกิจของบริษัทจีนที่ดำเนินงานในสหรัฐฯ ก็หดตัวลงเช่นกัน
“สภาพแวดล้อมในสหรัฐฯ กลายเป็นเรื่องที่ท้าทายมากขึ้นสำหรับนักลงทุนชาวจีน” อดัม สมิธ หุ้นส่วนของบริษัทกฎหมาย Gibson Dunn และอดีตที่ปรึกษากระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวกับ FT
ผลการสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้โดยหอการค้าจีนในสหรัฐ ระบุว่า บริษัทจีนกว่าร้อยละ 80 มองว่าความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ถดถอยลง และ “นโยบายด้านการลงทุนของต่างชาติที่ไม่มั่นคงของสหรัฐฯ” เป็นความท้าทายที่ใหญ่ที่สุด
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดได้เตือนว่าการตัดความสัมพันธ์กับและนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะนักลงทุนจีน จะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ตราหน้าปักกิ่งว่าเป็นคู่แข่งทางเศรษฐกิจรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และได้กล่าวหาบริษัทจีนในทุกเรื่อง ตั้งแต่การขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ ไปจนถึงการสอดแนมความเคลื่อนไหวของพลเมืองสหรัฐฯ
ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สหรัฐฯ ได้เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อตอบโต้ความไม่เป็นธรรมทางการค้า ซึ่งถือเป็นการประกาศสงครามการค้ากับจีน
ปธน.โจ ไบเดน ผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจาก ปธน.ทรัมป์ ยังคงรักษาแนวทางดังกล่าว โดยได้ขึ้นบัญชีดำทางการค้าบริษัทเทคโนโลยีจีนหลายสิบแห่ง, สั่งห้ามบริษัทสหรัฐฯ ลงทุนในจีนในภาคส่วนยุทธศาสตร์ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีอุปกรณ์การผลิตเซมิคอนดักเตอร์และชิปที่สำคัญไปยังจีน
ด้านรัฐบาลจีน กล่าวหาสหรัฐฯ ว่าละเมิดข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ และมุ่งเป้าไปที่ธุรกิจของจีนเพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของตน
(1 ดอลลาร์ = 35.59 บาท)
ที่มา:
[1] https://thepressunited.com/updates/chinese-investment-in-us-collapsing-ft/