
ผู้ผลิตรถจีน เรียกร้องรัฐตอบโต้ยุโรป โดยขอให้ขึ้นภาษี ‘รถยนต์น้ำมันเบนซิน’ จากยุโรป เพื่อตอบโต้ที่อียูขึ้นภาษีรถ EV นำเข้าจากจีน
หนังสือพิมพ์ Global Times รายงานเมื่อวันพุธ (19 มิ.ย.) ว่า บรรดาผู้ผลิตรถยนต์จีนเรียกร้องให้รัฐบาลขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์น้ำมันเบนซินจากยุโรป เพื่อตอบโต้กรณีที่สหภาพยุโรปสั่งขึ้นภาษีรถยนต์ไฟฟ้านำเข้าจากจีน
ในการประชุมแบบปิดที่จัดโดยกระทรวงพาณิชย์ของจีนเมื่อวันอังคาร (18 มิ.ย.) ซึ่งมีตัวแทนผู้ผลิตรถยนต์จากยุโรปเข้าร่วมด้วย บรรดาผู้ผลิตรถยนต์จีนเสนอให้รัฐบาลพิจารณาขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ขนาดใหญ่ที่ใช้นำมันเบนซินจากสหภาพยุโรป
สหภาพยุโรปเริ่มใช้นโยบายปกป้องตัวเองมากขึ้น ท่ามกลางความกังวลว่าสินค้าราคาถูกจากจีน ซึ่งรวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าจะไหลทะลักเข้าสู่ตลาดอียูใน 27 ประเทศ
เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรป ประกาศอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีน เพิ่มเติมจากภาษีนำเข้าที่มีอยู่แล้ว โดยกำหนดอัตราสูงสุดที่ 38.1% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. เป็นต้นไป หลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีรถยนต์ไฟฟ้าของจีน 4 เท่า เป็น 100% ในเวลาไม่ถึง 1 เดือน โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการเปิดแนวรบใหม่ในทำสงครามการค้าระหว่างชาติตะวันตกกับจีน
Global Times รายงานเมื่อปลายเดือนที่แล้วว่า ศูนย์วิจัยยานยนต์ในสังกัดของรัฐบาลจีนเคยเสนอให้รัฐบาลขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ขนาดใหญ่ (เครื่องยนต์ขนาดใหญ่กว่า 2.5 ลิตร) ที่ใช้เบนซิน เป็น 25% จากอัตราปัจจุบันที่ 15%
ก่อนหน้านี้ ทางการจีนเคยส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่จะกำหนดมาตรการตอบโต้ต่ออียู ผ่านสื่อของรัฐและบทสัมภาษณ์ต่างๆ
ข้อมูลจากสมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลแห่งประเทศจีน (CPCA) ระบุว่า การส่งออกรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่กว่า 2.5 ลิตรจากยุโรปไปยังจีน มีจำนวนทั้งสิ้น 196,000 คันในปี 2023 เพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อนหน้า ขณะที่ยอดการส่งออกรถยนต์ดังกล่าวจากยุโรปไปยังจีนในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 44,000 คัน ลดลง 12% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป เปิดเผยว่า การส่งออกรถยนต์ของสหภาพยุโรปไปยังจีน มีมูลค่า 1.94 หมื่นล้านยูโร (7.64 แสนล้านบาท) ในปี 2023 ขณะที่ ยอดการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนอยู่ที่ 9.7 พันล้านยูโร (3.82 แสนล้านบาท)
(1 ยูโร = 39.39 บาท)