Huawei และ SMIC ของจีน เร่งผลิตชิป AI รุ่นล่าสุดแข่ง Nvidia ท่ามกลางการคว่ำบาตรและกีดกันเส้นทางการค้าจากสหรัฐฯ ที่ห้ามแม้กระทั่งขายเครื่องจักรให้กับบริษัทชิปจีน
รอยเตอร์ รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า Huawei ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีน และ SMIC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของจีน ตั้งเป้าที่จะเริ่มการผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) “Ascend 910C” ซึ่งเป็นชิปรุ่นใหม่ล่าสุด แบบ mass production ในปีหน้า
โดย Huawei จะเริ่มผลิต Ascend 910C ชิป AI รุ่นใหม่ล่าสุดในจีน แบบ mass production ในไตรมาสแรกของปี 2025 ขณะที่ SMIC ผู้ผลิตชิปตามสัญญารายใหญ่ที่สุดของจีน จะผลิตชิป Ascend 910C โดยใช้กระบวนการ N+2
Huawei ตั้งเป้าที่จะเร่งการผลิตแม้ว่าอัตราผลผลิต หรือ Yield (สัดส่วนของชิปที่ออกมาจากสายการผลิตที่ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ) ของเซมิคอนดักเตอร์ AI ขั้นสูงจะยังต่ำกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรมมาก แหล่งข่าวระบุว่า ปัจจุบัน SMIC กำลังผลิต 910C บนอุปกรณ์ผลิตชิปเก่าในสต๊อก ซึ่งทำให้อัตราผลผลิตของชิปจำกัดอยู่ที่ประมาณ 20%
แม้แต่ชิป 910B ที่ผลิตโดย SMIC ซึ่งเป็นชิปที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบันของ Huawei ก็มีอัตราผลผลิตที่ประมาณ 50% เท่านั้น ส่งผลให้ Huawei ต้องลดเป้าหมายการผลิต และเลื่อนการสั่งทำชิปดังกล่าวออกไป
ทั้งนี้ ชิปขั้นสูงต้องมีอัตราผลผลิตมากกว่า 70% จึงจะขายได้ในเชิงพาณิชย์ โดยอัตราผลผลิตที่ต่ำกว่านี้หมายถึงต้นทุนที่สูงขึ้น และอัตราข้อบกพร่องที่สูงขึ้น
ทั้ง Huawei และ SMIC เป็นบริษัทที่ถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ และการเข้าถึงเทคโนโลยีชิปของบริษัททั้งสองถูกจำกัดมากขึ้นจากกฎควบคุมการส่งออกที่เข้มงวดยิ่งขึ้นของสหรัฐฯ
ผู้ผลิตชิปของจีนยังคงถูกตัดขาดจากระบบการผลิตชิปที่ก้าวหน้าที่สุด ซึ่งก็คือเทคโนโลยีการพิมพ์หินด้วยแสงอัลตราไวโอเลตชนิดเข้มข้น (EUV) ตั้งแต่ปี 2020 หลังจากที่สหรัฐฯ ห้ามไม่ให้ผู้ผลิตสัญชาติดัตช์อย่าง ASML ซึ่งเป็นบริษัทที่ผูกขาดการผลิตระบบ EUV ขายเครื่องจักรดังกล่าวให้กับจีน
และในปีนี้ ASML ยังถูกจำกัดไม่ให้จำหน่ายเครื่อง DUV (deep ultraviolet lithography) รุ่นล่าสุด รวมถึงรุ่นเก่าบางรุ่นให้กับจีน โดยข้อจำกัดดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อการปรับปรุงอัตราผลผลิตของชิป AI ขั้นสูงของ Huawei ซึ่งหมายความว่า Huawei จะไม่สามารถผลิตชิปให้เพียงพอกับความต้องการที่มากขึ้นในจีน
อย่างไรก็ตาม ความสามารถของ Huawei และ SMIC ในการผลิตชิป 910C แบบ mass production ไม่ว่าจะด้วยอัตราผลผลิตระดับใดจะถือเป็นความท้าทายสำหรับ Nvidia
Nvidia ผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ครองส่วนแบ่งทางการตลาดชิป AI ประมาณ 90% ในจีน ก่อนที่สหรัฐฯ จะออกมาตรการควบคุมการส่งออกชิปไปจีนในปี 2022 ซึ่งส่งผลให้ Nvidia ไม่สามารถขายชิปที่ล้ำหน้าที่สุดในจีนได้อีกต่อไป
ปัจจุบัน Nvidia กำลังพัฒนาชิปซีรีส์ “Blackwell” สำหรับลูกค้าในจีนที่มีชื่อว่า “B20″ ซึ่งจะเป็นชิปที่ล้ำสมัยที่สุดที่ผู้ผลิตชิปของสหรัฐฯ สามารถจำหน่ายในจีนได้ อย่างไรก็ตาม นักวิจัยด้านเซมิคอนดักเตอร์จาก SemiAnalysis กล่าวกับ Washington Post เมื่อเดือน ส.ค. ว่าชิป 910C ของ Huawei มีประสิทธิภาพสูงกว่าชิป B20 ของ Nvidia ซึ่งทำให้ Huawei มีข้อได้เปรียบอย่างมากแม้จะมีอัตราผลผลิตของชิป หรือ Yield ต่ำก็ตาม
Huawei ยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน ซึ่งกำลังพยายามทำให้เศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกสามารถพึ่งพาตนเองในด้านเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงได้ ในเดือน พ.ค. รัฐบาลจีนได้จัดตั้งกองทุนมูลค่าเกือบ 48,000 ล้านดอลลาร์ (1.65 ล้านล้านบาท) เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ ซึ่ง Huawei และ SMIC เป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการสนับสนุนดังกล่าว
ในปี 2023 Huawei ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ (3.44 หมื่นล้านบาท) ตามรายงานของ South China Morning Post ขณะที่ SMIC ได้รับเงินอุดหนุนมูลค่า 360 ล้านดอลลาร์ (1.24 หมื่นล้านบาท)
(1 ดอลลาร์ = 34.47 บาท)