กำลังผลิตมันสำปะหลังตก ! สวนทางความต้องการของตลาดในประเทศและตลาดโลก สนค. เสนอรัฐเร่งพัฒนาปรับปรุงพันธุ์ เพิ่มกำลังและมูลค่าสินค้าเกษตร

8 พ.ย. 66 สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ รายงานถึงสถานการณ์การค้าสินค้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทยในช่วง 9 เดือนแรก (มกราคม – กันยายน 2566) พบว่ามีมูลค่าการส่งออกรวม 2,907.25 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 15.30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าจากการปรับตัวลดลงของปริมาณการส่งออก 

แต่ถึงแม้มูลค่าการส่งออกของไทยจะลดลง แต่ราคาที่เกษตรกรขายได้และราคาส่งออกยังคงปรับตัวสูงขึ้น และไทยยังคงครองส่วนแบ่งในตลาดโลกเป็นอันดับ 1 ที่ 36.69% และใน 9 เดือนแรกของปี ไทยส่งออกสินค้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังดังนี้ 

 – แป้งมันสำปะหลังดิบ มีมูลค่า 1,063.12 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 23.71 % 

 – มันสำปะหลังเส้น มีมูลค่า 1,053.95 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 14.07 % 

 – แป้งมันสำปะหลังแปรรูป มีมูลค่า 694.80 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 3.71 % 

 – ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังอื่น ๆ มีมูลค่า 68.45 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.44 % 

 – มันสำปะหลังอัดเม็ด มีมูลค่า 26.93 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 41.02 % 

อย่างไรก็ดี เว็บไซต์ คิดค้า.com ของกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า เมื่อพิจารณาจากประเทศที่มีมูลค่าการนำเข้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังสูง ไทยยังมีส่วนแบ่งตลาดต่ำกว่าค่าเฉลี่ยส่วนแบ่งตลาดของไทยในโลก แสดงให้เห็นถึงช่องว่างขอฦโอกาสในการขยายตลาดของไทย ตัวอย่างเช่น เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา ที่มีส่วนต่างเป้าหมายการส่งออกอยู่ที่ 94.06 และ 45.32 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามลำดับ 

สำหรับกำลังการผลิตมันสำปะหลังของไทยในปีนี้ลดลง สวนทางกับความต้องการทั้งในประเทศและในตลาดโลกที่สูงขึ้นเนื่องจากมันสำปะหลังของไทยยังคงเผชิญกับโรคใบด่างและศัตรูพืช รวมทั้ง การขาดแคลนท่อนพันธุ์ที่ทนต่อโรคพืชและแมลง ประกอบกับผลกระทบจากวิกฤตภัยแล้งในปีนี้ และอุทกภัยในช่วงปี 2565 ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้พื้นที่เพาะปลูกและผลผลิตในประเทศลดลง 

ดังนั้น รัฐบาลควรเร่งสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ที่ทนโรคและให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการอยู่แล้วแต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ นอกจากนี้ ต้องเร่งส่งเสริมการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลังที่หลากหลายด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมชั้นสูงเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ และเพิ่มโอกาสการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังแปรรูปในตลาดศักยภาพใหม่ ๆ ให้มากขึ้นด้วย