พร้อมสนับสนุนซีเรีย หลังระบอบอัสซาดล่มสลาย ไบเดนประกาศพร้อมส่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ไปช่วยเหลือ
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน กล่าวแสดงความยินดีกับการโค่นล้มระบอบเผด็จการของซีเรียเมื่อวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) แต่ก็เตือนถึงความไม่แน่นอนในช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมืองของประเทศด้วย
“นี่เป็นช่วงเวลาแห่งโอกาสทางประวัติศาสตร์สำหรับประชาชนชาวซีเรียที่ต้องทนทุกข์ทรมานมานาน ในการสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับประเทศอันภาคภูมิใจของพวกเขา”
“และยังเป็นช่วงเวลาแห่งความเสี่ยงและความไม่แน่นอน เมื่อเราหันมาพิจารณาคำถามว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ สหรัฐฯ จะทำงานร่วมกับพันธมิตรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในซีเรียเพื่อช่วยให้พวกเขาคว้าโอกาสในการจัดการกับความเสี่ยง สหรัฐฯ จะให้การสนับสนุนเพื่อนบ้านของซีเรีย รวมถึง จอร์แดน อิรัก เลบานอน และอิสราเอล ในช่วงเปลี่ยนผ่าน และส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงไปยังภูมิภาคดังกล่าว”
ไบเดน ยังให้คำมั่นว่าจะดำเนินภารกิจต่อต้านไอซิส (ISIS) ต่อไป และจะรับรองความปลอดภัยของสถานกักขังในซีเรียที่ควบคุมตัวนักรบไอซิส พร้อมเสริมว่า กองกำลังสหรัฐฯ ได้ดำเนินการโจมตีทางอากาศกว่า 10 ครั้งในซีเรียเมื่อวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) โดยกำหนดเป้าหมายไปที่ค่ายและฝ่ายปฏิบัติการของไอซิส
ไบเดน กล่าวต่อไปว่า สหรัฐฯ จะยังคงเฝ้าระวังเนื่องจากกลุ่มกบฏบางกลุ่มที่ล้มระบอบการปกครองของอัสซาดก็มีประวัติการก่อการร้าย และการละเมิดสิทธิมนุษยชนเช่นกัน สหรัฐฯ จะช่วยทุกกลุ่มในซีเรีย จัดตั้งรัฐบาลที่เป็นอิสระและมีอำนาจอธิปไตย คำมั่นสัญญาดังกล่าวจะรวมถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพื่อช่วยเหลือซีเรียหลังจากสงครามกลางเมืองกินเวลายาวนานถึง 13 ปี
กองกำลังกบฏซีเรียยึดเมืองหลวงดามัสกัสเมื่อวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) ส่งผลให้ระบอบเผด็จการของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ปกครองในซีเรียมายาวนานหลายทศวรรษสิ้นสุดลง