
ไบเดนเตรียมอาวุธล็อตใหม่ 2.33 หมื่นล้านบาทให้อิสราเอล ทั้งชุดระเบิดนำวิถีหลายพันชุด และระเบิดขนาดเล็กหลายร้อยลูก
Financial Times รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าววงในว่า รัฐบาลไบเดนกำลังเร่งอนุมัติแพ็คเกจขายอาวุธมูลค่า 680 ล้านดอลลาร์ (2.33 หมื่นล้านบาท) ซึ่งรวมถึงชุดระเบิดนำวิถี หรือ JDAM หลายพันชุด และระเบิดขนาดเล็กหลายร้อยลูก ให้กับอิสราเอล
รายงานข่าวดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่ถึงหนึ่งวันหลังจากที่ผู้นำอิสราเอลลงนามข้อตกลงหยุดยิงในเลบานอน 60 วันกับ ‘ฮิซบอลเลาะห์‘
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้อนุมัติการขายเครื่องบินรบ F-15 และอาวุธยุทโธปกรณ์อื่น ๆ รวมมูลค่ากว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ (6.88 แสนล้านบาท) ให้กับอิสราเอล และเมื่อเดือน มิ.ย. รอยเตอร์รายงานว่า สหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรและซัพพลายเออร์อาวุธรายใหญ่ที่สุดของอิสราเอล ได้ส่งระเบิดทำลายล้างสูงน้ำหนัก 2,000 ปอนด์ กว่า 10,000 ลูก และขีปนาวุธเฮลไฟร์ (Hellfire) หลายพันลูกให้กับอิสราเอล นับตั้งแต่สงครามกาซาเริ่มต้นขึ้นในเดือน ต.ค. 2023
ในช่วงดึกของวันอังคาร (26 พ.ย.) นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล ได้ระบุถึงความจำเป็นในการเติมคลังอาวุธให้เพียงพอว่าเป็นหนึ่งในเหตุผลของการหยุดยิง “ผมขอพูดอย่างตรงไปตรงมาว่าการส่งมอบอาวุธ และกระสุนปืนเกิดความล่าช้าครั้งใหญ่ ซึ่งความล่าช้าเหล่านี้จะได้รับการแก้ไขในไม่ช้า” เขากล่าว
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวว่า แพ็คเกจดังกล่าวอยู่ระหว่างการดำเนินการมาหลายเดือนแล้ว โดยได้นำเสนอต่อคณะกรรมการรัฐสภาสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกในเดือน ก.ย. การเจรจาเกี่ยวกับการขายยังคงดำเนินต่อไปในขณะที่กลุ่มวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ สายก้าวหน้า รวมถึงเบอร์นี แซนเดอร์ส ได้เสนอญัตติเพื่อระงับการขายอาวุธบางส่วนของสหรัฐให้กับอิสราเอล เนื่องจากข้อกังวลเกี่ยวกับภัยพิบัติทางมนุษยธรรมที่ชาวปาเลสไตน์เผชิญในฉนวนกาซา
อย่างไรก็ตาม กฎหมายดังกล่าวซึ่งน่าจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะหยุดการขายอาวุธใดๆ ก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีพรรครีพับลิกันจะเข้ารับตำแหน่งในเดือน ม.ค. 2025 ถูกตีตกในวุฒิสภาไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะยืนยันเรื่องการขายอาวุธดังกล่าว แต่กล่าวว่า สหรัฐฯ ยังคงสนับสนุนอิสราเอลไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะเดียวกันอิสราเอลเองก็มีภาระผูกพันทางศีลธรรมที่จะต้องปกป้องพลเรือน
(1 ดอลลาร์ = 34.41 บาท)