Newsทีมงานชัชชาติ คุกคามทางเพศสตรี อดีตทีมงานสาวของชัชชาติเผย ฝ่ายบริหารพยายามปกปิด ปล่อยให้เรื่องค้างคาในทราฟฟี่ ฟองดูว์

ทีมงานชัชชาติ คุกคามทางเพศสตรี อดีตทีมงานสาวของชัชชาติเผย ฝ่ายบริหารพยายามปกปิด ปล่อยให้เรื่องค้างคาในทราฟฟี่ ฟองดูว์

น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี  อดีตทีมงานของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ร้องเรียนต่อสื่อมวลชน ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เพื่อร้องขอความเป็นธรรม ในกรณีที่ตนเองถูกผู้บริหารระดับสูงฝ่ายการเมือง คุกคามทางเพศในพื้นที่สาธารณะ สร้างบาดแผลทางใจและส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต

โดยเธอระบุว่าตนเองได้เข้าร่วมทีมงานหาเสียงของนายชัชชาติมาตั้งแต่เดือน เม.ย. 2564 และเมื่อนายชัชชาติเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ตนเองยังคงทำงานร่วมกับทีมงานเช่นเดิม ซึ่งเมื่อหลังเลิกงานมีการออกไปร่วมรับประทานอาหารและดื่มสังสรรค์กันเป็นครั้งคราว เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการทำงานและคลายเครียด 

 

จนกระทั่งตนเองลาออกไปเมื่อเดือน มี.ค. 66 แต่ในระหว่างนั้นยังมีโครงการที่ยังไม่แล้วเสร็จ ตนเองยังต้องกลับมาประสานงานที่ศาลาว่าการ กทม.

ในวันเกิดเหตุ เดือน เม.ย. 66 ตนเองไปพบปะสังสรรค์กับทีมงานช่วงหลังเลิกงานเช่นเดิม ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง แต่ถูกผู้บริหารระดับสูงฝ่ายการเมืองคุกคามทางเพศ ด้วยการเข้าโอบกอดจากทางด้านหลัง จนร่างกายแนบชิดติดกัน และมีการไซ้บริเวณคอและหู

แม้ตนเองจะพยายามผลักออก แต่อีกฝ่ายใช้กำลังโอบรัดไว้ จึงนำเรื่องดังกล่าว ไปแจ้งกับประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯ และรองผู้ว่าฯ กทม. 2 คนให้รับทราบ

แต่ต่อมาในเดือน มิ.ย. 66 ผู้บริหารระดับสูงที่ทราบเรื่องได้เรียกตนเองไปเจรจาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี ซึ่งอีกฝ่ายยอมรับว่ากระทำการคุกคามทางเพศตนเองจริง และฝ่ายผู้บริหารให้ตนเองเสนอเงื่อนไขและทางออกที่ตนเองต้องการ ตนเองขอให้คู่กรณีสารภาพผิดและขอโทษตนเองผ่านโซเชียลมีเดีย แต่คู่กรณีมิได้ดำเนินการตามที่ตนขอ

เดือน ส.ค. 66 ตนเองแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่านทราฟี่ฟองดูว์ เพื่อให้เรื่องเข้าสู่ระบบ ตามระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งช่องทางนี้ไม่ใช่ช่องทางแรกที่ตนเองร้องขอความช่วยเหลือ และไม่ใช่ช่องทางแรกที่ผู้บริหารระดับสูงรับทราบเรื่องนี้

ต่อมามีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ โดยหนึ่งในคณะกรรมการฯ เป็นพยานตอนที่คู่กรณีรับสารภาพแล้ว แต่กลับปล่อยให้ฝ่ายกฎหมายสรุปว่าสองฝ่ายให้การไม่ตรงกัน ทำให้ไม่สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริง และไม่สามารถเอาผิดได้

 

ตนขอเข้าพบผู้บริหารระดับสูง เพราะเห็นว่ากระบวนการตรวจสอบผิดวิสัย แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยง และบอกให้คู่กรณีแสดงความรับผิดชอบด้วยตัวเอง เมื่อสอบถามความคืบหน้าก็ได้คำตอบว่าให้รอ จนผู้บริหารระดับสูงแจ้งกลับมาว่าคู่กรณีได้ลาออกจากตำแหน่งไปแล้ว หากยังติดใจก็สามารถดำเนินการตามกฎหมายอื่นๆได้ ในขณะที่ระบบทราฟฟี่ ฟองดูว์แสดงสถานะยังติดตามเรื่องนี้อยู่

 

และเมื่อตนเองร้องขอให้มีการชี้แจงผ่านช่องทางไลน์ ช่องกำหนดการของ กทม. ซึ่งมีสมาชิกเป็นผู้บริหารและผู้สื่อข่าว ก็ถูกโฆษก กทม. ลบบัญชีของตนเองออกจากกลุ่มทันที และสาเหตุที่ตนไม่ไปแจ้งความ เพราะคู่กรณีรู้จักมักคุ้นกับตำรวจ จึงเกรงจะไม่ได้รับความยุติธรรม

น.ส. เอยังกล่าวด้วยว่า นอกจากตนเองแล้ว ยังมีน้องผู้หญิงในทีมงานนายชัชชาติ ถูกผู้บริหารรายนี้คุกคามทางเพศด้วยเช่นกัน และถูกฝ่ายกฎหมายสรุปว่าไม่ใช่การคุกคามทางเพศ น้องในทีมงานจึงไม่กล้าเอาเรื่อง

 

สำหรับตนเองในเวลานี้ ไม่ต้องการเพียงคำขอโทษแล้ว แต่ต้องการให้มีการดำเนินคดี ให้มีการบันทึกว่าออกจากตำแหน่งเพราะมีความผิด ไม่ใช่ลาออกไปเงียบ ๆ ตนเองรู้สึกผิดหวังในเรื่องดังกล่าวมาก ที่ผ่านมาอดทนมาตลอดเพราะเห็นแก่ที่เคยทำงานร่วมกันมา และหวังว่าจะมีทางออกที่เหมาะสม แต่ผู้บริหาร กทม. กลับไม่ให้สนใจ ปล่อยเรื่องทิ้งไว้เป็นปี ทั้ง ๆ ที่ตกลงกันได้

ด้านนายชัชชาติ กล่าวว่า รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว เมื่อทราบเรื่องจึงได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง แต่ผลการสอบข้อเท็จจริงไม่ได้ชี้ชัดว่าผิดหรือไม่ แต่เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย จึงให้ผู้บริหารระดังสูงรายนั้นลาออกจากตำแหน่งขณะเดียวกันผู้ร้องสามารถเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางกฎหมายได้ 




เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า